ชาวบ้านสามร้อยยอดเร่งออกมาเก็บหอยแมลงภู่ที่เลี้ยงไว้หน้าชายหาดขาย หลังจากเลี้ยงแบบธรรมชาติมาได้ประมาณหนึ่งปี หอยโตและน้ำทะเลลงต่ำ เก็บขายส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์บ้าง ใส่รถตระเวนขายเอง หรือบางคนก็ให้ลูกหลานโพสต์ขายทางสื่อออนไลน์ ได้ราคาดีกว่า สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เวลา 13.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่บริเวณหน้าชายหาดบ้านหนองแขมใหญ่ ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านพากันลงเก็บหอยแมลงภู่ ที่กำลังโตได้ขนาด ส่งขายตามออร์เดอร์ ใส่รถตระเวนขาย และขายตามสื่อโซเชียล สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเมื่อมองไปในทะเลจะพบเห็นมีกำหอย (ชาวบ้านเรียกกัน) ที่ใช้ไม้ไผ่ปักไว้อยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำทะเลลดลง และหอยแมลงภู่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้แบบธรรมชาติโตได้ขนาด เป็นนาทีทองของชาวบ้าน จะมีชาวบ้านต่างพาครอบครัวพร้อมนำอุปกรณ์ลงไปเก็บหอยของแต่ละคนที่เป็นเจ้าของ นำขึ้นมาทำความสะอาดเพื่อนำไปขายให้แม่ค้าขายส่งนำไปขายต่อ โดยแต่ละวันชาวบ้านจะเก็บขึ้นมาขายวันละ 150-200 กิโลกรัม ขายส่งราคากิโลกรัมละ 25 บาท โดยจะมีรายได้ตกวันละ 3000-5000 บาท ถ้าชาวบ้านคนใดนำไปขายเองหรือโพสต์ขายในโซเชียลก็จะได้ราคาเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 35 บาท
นายสุรินทร์ สีละมุด ชาวบ้าน กล่าวว่า ตนเองมีหอยหลักอยู่ประมาณ 1 ไร่ 800 หลัก มาเก็บหอยได้ 3 วันแล้ว ก็ตกวันละ 150-160 กิโลกรัม และจะมีแม่ค้ามารับถึงที่บ้านในราคากิโลกรัม 25 บาท ปีหนึ่งเก็บได้กี่ครั้งไม่แน่ใจ ก็เก็บไปเรื่อยๆ จนกว่าหอยจะหมด และหอยหลักก็ไม่ต้องดูแลอะไร พอปักไม้แล้วก็ปล่อยเลย พอครบปีเราก็ลงเก็บได้เลย เพราะว่าน้ำจะลงในช่วงนี้ทุกปี สังเกตได้จากลม พอลมจะเป็นเซิงน้ำก็จะเริ่มลง เราก็จะมาเก็บในช่วงที่น้ำลงสุดๆ ก็เป็นรายได้เสริมเพิ่มขึ้นมาในช่วงนี้
นางกลอยใจ พลอยม่วง ชาวประมง กล่าวว่า มาเก็บได้ 2 วันแล้ว แต่ของตนเองจะขายแต่ทางออนไลน์เท่านั้น คือจะลงในเฟซบุ๊กขายอย่างเดียวเลย ก็ขายได้ดีมากๆ อย่างเมื่อวานที่มาเก็บได้ประมาณสามร้อยกว่าโล ขายได้ถึง 8,000 บาท ก็ขายราคาเหมือนๆ กัน คือ 3 โล 100 บาท ส่วนพื้นที่ของตนเองก็มี 1ไร่ แต่ปักไป 400 หลัก และตอนนี้ก็เพิ่งลงหลักใหม่ไป หอยก็ยังไม่ค่อยติดเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่สร้างรายได้เสริมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจริงๆ
หอยแมลงภู่ คือหอยทะเลที่เป็นอาหารยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง ที่มีราคาย่อมเยากว่าหอยทะเลชนิดอื่นอย่างหอยแครงหรือหอยนางรม เนื่องจากในประเทศไทยยังเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ได้ในปริมาณมาก ทำให้มีหอยป้อนเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบหอยสด หรือหอยแปรรูป นอกจากนี้การเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่นั้นยังมีต้นทุนที่ต่ำมาก มีเพียงต้นทุนค่าเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เพื่อสร้างที่ยึดเกาะให้กับลูกหอยอาศัยเท่านั้น ส่วนลูกพันธุ์หอยแมลงภู่นั้น ผู้เลี้ยงไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเพราะลูกหอยในธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ต่างจากการเพาะเลี้ยงหอยแครง และหอยนางรม ที่จำเป็นเป็นต้องลงทุนหาซื้อลูกพันธุ์หอยมาเพาะเลี้ยงเอง เนื่องจากปริมาณลูกหอยในธรรมชาติของหอยทั้งสองชนิดนี้หายาก และขาดแคลนมาก
ด้านนางสาวชุลี ลิ้มประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาอาชีพ (กศส.) กล่าวว่า ช่วงนี้ชาวบ้านมีรายได้จากการเก็บหอยดีมากเพราะเป็นช่วงน้ำลง พอน้ำลงก็จะลงไปเก็บหอยได้ปริมาณมาก ในปีนี้ก็จะมีช่วงรี้ที่ชาวบ้านจะเก็บผลผลิตจากหอยได้ ส่วนเรื่องการขายของชาวบ้านก็จะมีหลายแบบ บางคนก็จะมีแม่ค้ามารับคือรับสดไปเลย อย่างที่สองคือมีขายทางเฟซบุ๊ก ทางออนไลน์ และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการนำมาแปรรูปก็จะได้ในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าขึ้นมา และเราก็มีโครงการของ กศส. (สร้างอาชีพด้านอาหารปลอดภัย โดยใช้ชุมชนเป็นฐานราก) ลงมาสนับสนุนด้วย ก็คือส่งเสริมในเรื่องของการแปรรูป เช่น การทำหอยดอง หอยผีเสื้อ และต่อไปจะพัฒนาเป็นเรื่องของการทำหอยทรงเครื่อง รวมถึงพัฒนาแพ็คเก็ตให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อที่จะจำหน่ายตลาดนอกด้วย ซึ่งจะเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต ส่วนช่องทางการขายตอนนี้มีทั้งไปขายตามตลาด แม่ค้าเดิมคือกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแม่ค้าอยู่แล้ว อย่างที่สองก็เปิดเพจ และบางคนก็ขายออนไลน์ที่หน้าเฟซบุ๊กของตนเองด้วย ก็มีทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งตอนนี้มีผลตอบรับดีมาก และต่อไปก็ต้องมาวางแผนการผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าต่อไป
////////////////////////////////////////////////////