ฝ่ายปกครองประจวบฯหิ้วทีม ชรบ.มือยิงพม่าเข้ามอบตัวบ่ายวันนี้ ก่อนตำรวจออกหมายจับคดีใช้ปืนลูกซองควบกระบะไล่ยิงรถขนแรงงานเถื่อนดับ 1 เจ็บ 3

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

กรณีพบศพแรงงานชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองเพศชาย อายุ 35 ปี   สภาพศพมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัวและศรีษะ นอนเสียชีวิตท้ายรถกระบะโตโยต้า ตอนครึ่ง  สีบรอนซ์ทอง  ทะเบียน  บย. 7825  เพชรบุรี จอดบนถนนสายบ้านหนองขาม – หนองนุ่น   หมู่ 8 ต.เกาะหลัก  อ.เมือง และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 รายเข้ารักษาตัวที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์    ใกล้กันพบแรงงานต่างด้างชาวเมียนมาร์หนีเข้าเมืองซุกซ่อนตัวในป่าละเมาะริมถนนอีก  10 คนเป็นหญิง 6 คนชาย 4 คนเหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00  น.วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 

ความคืบหน้า วันที่ 8 พฤษภาคม   มีรายงานว่า  นายธนนท์ พรรพีภาส  นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์  จะนำตัวเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ( ชรบ.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจชุมชนในวันเกิดเหตุเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  ก่อนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด  เพื่อลดปัญหาผลกระทบจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง  ทั้งนี้หลังการมอบตัวดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ ชรบ. 1  นายให้การรับสารภาพว่าควบรถกระบะไล่ยิง  โดยไม่ได้ตั้งใจให้แรงงานชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองถึงแก่ความตายจากการใช้อาวุธปืนลูกซองของทางราชการ

จ.อ.เสกสรรค์ จันทร   คณะทำงานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่นประจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า  จากการตรวจสอบคดีนี้มีพิรุธและส่อเป็นมวยล้มต้มคนดู ตั้งแต่วันเกิดเหตุวันแรกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม   เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนขับรถบรรทุกแรงงานเถื่อนที่หลบหนีหลังเกิดเหตุได้ เหมือนหลายคดีค้าแรงงานเถื่อนที่คนขับหลบหนีลอยนวล   รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบางหน่วยซึ่งรับทราบในทางลับจากพยานหลักฐาน โดยพบว่าผู้ลงมือก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหกน่วยงานของรัฐอย่างชัดเจน

จ.อ.เสกสรรค์  กล่าวอีกว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่บางฝ่ายพยายามประวิงเวลา  เพื่อไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องที่ลงมือก่อเหตุในขบวนการ ต้องไปตรวจหาเขม่าดินปืนหรือตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด  ไม่ได้นำอาวุธปืนของทางราชการที่ใช้ก่อเหตุไปตรวจสอบ  ขณะที่บางรายทราบว่าฝ่ายความมั่นคงมีรายชื่อทางลับ ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ  ล่าสุดคณะทำงานฯได้ยื่นร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ทำการไต่ส่วนข้อเท็จจริงกับ ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกับพวกที่กำกับดูแลนโยบายด้านความมั่นคงที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เพื่อพิสูจน์ขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่มีการใช้ความรุนแรง โดยใช้อาวุธปืนของทางราชการยิงแรงงานเถื่อนเสียชีวิตหลังหลบหนีเข้าเมืองแทนการจับกุมเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย   อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

////