ตำรวจประจวบฯตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว ชรบ.หมู่บ้านใช้ปืนลูกซองราชการยิงรถบรรทุกแรงงานเถื่อนดับ 1 เจ็บ 3

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

กรณีพบแรงงานชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองเพศชาย อายุ 35 ปี   สภาพศพมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัวและศรีษะ นอนเสียชีวิตท้ายรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง  สีบรอนซ์ทอง  ทะเบียน  บย. 7825  เพชรบุรี จอดบนถนนสายบ้านหนองขาม – หนองนุ่น   หมู่ 8 ต.เกาะหลัก  อ.เมือง และมีผู้บาดเจ็บถูกยิงอีก 3 ราย  ใกล้กันพบแรงงานต่างด้างหนีเข้าเมืองซุกซ่อนตัวริมถนน  10 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00  น.วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ต่อมา เมื่อวันที่ 8  พฤษภาคม  นายบุญเพ็ง แก้วประเสริฐ  อายุ 51 ปี  เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน (ชรบ.)  หมู่ 6 ต.เกาะหลัก เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวของทางราชการที่ใช้ก่อเหตุ

วันที่   9   พฤษภาคม  พ.ต.อ.สุธี   วรรณสูตร  ผกก.สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัว  พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากนั้นมีการสอบปากคำ และได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม ตั้งแต่จุดที่อ้างว่ามีการซุ่มยิงถึงจุดที่พบรถกระบะจอดทิ้งไว้ระยะทางห่างกัน 7 กิโลเมตร   เพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดี  รวมทั้งสืบสวนหาคนขับรถที่ทิ้งรถหลบหนีหลังเกิดเหตุ  และเจ้าของรถกระบะที่นำแรงงานชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมือง   ส่วนการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2- 3 วัน

นายธนนท์ พรรพีภาส  นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์  กล่าวว่า  ได้เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกตำบลเพื่อกำชับให้ทำหน้าที่ตามกรอบกฎหมายและอำนาจหน้าที่   สำหรับ ชรบ.หมู่ 6 ยังปฏิบัติตามปกติยกเว้นผู้ต้องหาได้ขอหยุดพักการทำหน้าที่ หลังจากในวันเกิดเหตุเข้าประจำจุดตรวจชุมชนทำหน้าที่จุดตรวจช่องสิบศพเพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

จ.อ.เสกสรรค์  จันทร   คณะทำงานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.)  ประจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า  ขณะนี้ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( กสม.) คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ยื่นร้องเรียน ปปช.ให้ไต่ส่วนการทำหน้าที่ของ ผอ.กอ.รมน.จังหวัดและพวก ที่มีหน้าที่กำกับดูแลภารกิจด้านความมั่นคงชายแดน เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของทหาร  ตชด. ที่ดูแลพื้นที่จากสันแดนระยะทาง 3 กิโลเมตรปล่อยให้แรงงานเถื่อนเดินเข้ามาในเขตเมือง

จ.อ.เสกสรรค์  กล่าวอีกว่า ต้องตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้นำท้องที่  เจ้าหน้าที่  ชรบ.ที่เข้าเวรปฎิบัติงานและอ้างว่าได้ออกลาดตระเวน โดยใช้อาวุธปืนของทางราชการ จากนั้นได้ดักซุ่มเพื่อยิงปืนขึ้นฟ้า และ ยิงใส่รถกระบะที่บรรทุกแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ต้องมีความชัดเจนว่าการดักซุ่มของ ชรบ.เป็นการทำหน้าที่ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ฝ่ายปกครองอำเภอได้กำชับให้ผู้ที่ปฏิบัติชายแดนแจ้งให้หน่วยงานอื่นสกัดจับการค้าแรงงานเถื่อน  หากพบการหลบหนีออกไปจากจุดตรวจที่หมู่บ้านต้องรับผิดชอบ

“ หลังจากกระบะขับหลบหนีมีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้แจ้งเหตุให้หน่วยอื่นทราบเพื่อสกัดจับหรือไม่ ขณะที่หมู่บ้านที่ติดกับแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมากถึง 3 คน บุคคลเหล่านี้ควรทำหน้าที่ใช้อาวุธปืน หรือเป็นพี่เลี้ยงกำกับดูแลการทำงานของ ชรบ.ซึ่งเป็นเพียงประชาชนจิตอาสา ไม่มีรายได้ตอบแทนจากการทำหน้าที่และที่น่าแปลกใจพบว่าในจุดตรวจชุมชนในพื้นที่ชายแดนที่ ต.เกาะหลัก ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด  “จ.อ.เสกสรรค์  กล่าว

///////////////////////////