เมียแรงงานพม่าที่อ่าวน้อยโวย จ่า ส.อมเงินสด 45,000 จากกระเป๋าสะพายขณะตรวจค้น ก่อนสามีโดนข้อหาค้าแรงงานเถื่อน

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

วันที่  12  พฤษภาคม   เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะจงอางศึก   กองกำลังสุรสีห์  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ   ฝ่ายปกครอง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  ร่วมกันจับกุมแรงงานชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมือง 130 คน  เป็นชาย 76 คน  หญิง  54 คน  บริเวณหมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ.ห่างจากจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร  5 กิโลเมตร (กม.) สอบสวนทั้งหมดไปกบดานที่บ้านมูด่อง  ก่อนนายทุนพาหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าประเทศไทยไปทำงาน จ.สมุทรสาครและประเทศมาเลเซียโดยจ่ายค่าจ้างให้กับผู้นำพาชาวเมียนมาร์หัวละ  30,000 บาท เมื่อเดินทางถึงปลายทาง  จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา ส่ง สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

มีรายงานว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยสกัดจับรถยนต์กระบะขนแรงงานเถื่อน บริเวณบนถนนสายบ้านหนองยายเอม บ้านหนองเป็ดหงส์ หมู่ 11 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ พบกระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ผข 3301 สุพรรณบุรี มีนายสมพร อ่อนจิต อายุ 33 ปี ชาวหมู่ที่ 9 ต.อ่าวน้อย เป็นคนขับรถ พาชาวเมียนร์มา 24 คนหลบหนี  พร้อมจับกุมนายวิน ชุบ อายุ 28 ปี  ชาวเมียนมาร์แรงงานรับจ้างกรีดเป็นผู้นำพา  ตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุน

ต่อมานางเว  เว  อายุ 25 ปีภรรยานายวิน ชุบ ผู้ต้องหาได้ร้องเรียนผ่านผู้นำท้องที่รายหนึ่งใน ต.อ่าวน้อย ระบุว่า มีชุดจับกุมแต่งกายลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ชื่อย่อ จ่า ส. รูปร่างสูงใหญ่  ได้ค้นตัวสามีพร้อมยึดกระเป๋าสะพายภายในมีเงินสด 50,000  บาท เป็นเงินสะสมจากการรับจ้างกรีดยางนานหลายปี  โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอ้างว่า จะนำกระเป๋าไปตรวจหาสิ่งของผิดกฎหมาย  จากนั้นเจ้าหน้าที่คนเดียวกันได้นำกระเป๋ามาคืนให้หลังควบคุมตัวสามีไปดำเนินคดีที่ สภ.อ่าวน้อย   พบว่ามีเงินสดเหลือเพียง 5,000  บาท จึงได้ทวงถามกแต่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ที่ ต.อ่าวน้อย ระบุว่า ขณะนี้มีคนไทยกลุ่มหนึ่งอ้างตัวเป็นผู้นำท้องที่จากหลายตำบล ร่วมกันเดินลาดตระเวนที่สันแดน พื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง ต.อ่าวน้อย และ ต.เกาะหลัก โดยพื้นที่ดังกล่าวมีการตั้งเต๊นท์เพื่อดักเรียกเก็บส่วยจากแรงงานจากเมียนมาร์ที่เดินผ่านสันแดนก่อนเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทหารและ  ตชด.ได้กำหนดหลักเกณฑ์ห้ามผู้ใดหรือเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานอื่น เข้าไปในพื้นที่รัศมี 3 กม.ห่างจากสันแดนไทยเมียนมาร์

//////////////////////////////////////