ตร.สระแก้ว จัดฝึกซ้อมเพิ่มประสิทธิภาพตำรวจ 16 สถานี ในจังหวัด หลังคนร้ายใช้อาวุธต่อสู้ จนท.มากขึ้น

แชร์ข่าวนี้

รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ สระแก้ว
.ตร.สระแก้ว จัดฝึกซ้อมเพิ่มประสิทธิภาพตำรวจ 16 สถานี ในจังหวัด หลังคนร้ายใช้อาวุธต่อสู้ จนท.มากขึ้น
ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จัดการฝึกซ้อมทบทวนยุทธวิธีในงานป้องกันและปราบปรามทั้ง 16 สถานีภายในวันที่ 30 มิ.ย.หลังพบว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้การเข้าจับกุมผู้ก่ออาชญากรรมหรือเหตุทะเลาะวิวาท มักเกิดการบาดเจ็บและสูญเสียกำลังพลบ่อยครั้ง ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า กำลังพลทุกภาคส่วนต้องมีความพร้อมทั้งในส่วนของบุคคลากรและอุปกรณ์เข้าระงับเหตุ โดยเฉพาะร้อยเวร 20 จะต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ชุดแรกที่มักจะประสบเหตุ
วันนี้ 21 มิ.ย.65 พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว , พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และพ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว ได้ร่วมพิธีจัดการฝึกทบทวนยุทธวิถีในงานป้องกันและปราบปราม ตามแบบคู่มือการปฎิบัติ หรือ SOP โดยใช้ครูฝึกชุดครูแม่ไก่ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ฝึกทบทวนยุทธวิธีกำลังพลทั้ง 16 สถานีภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยในวันนี้เป็นการฝึกทบทวนตำรวจทั้งสายตรวจ ปราบปราม และสืบสวน พื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว ที่มีกำลังพลเข้าร่วมทบทวนทั้งหมด 64 นาย ขณะที่ต้นสังกัดได้เน้นย้ำหัวข้อทบทวน คือการเข้าระงับเหตุโดยให้จำลองสถานการณ์คนร้ายมีอาวุธ , การตรวจค้นและจับกุม รวมทั้งการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ให้มีการจำลองสถานการณ์คนร้ายพยาบามหลบหนี การใช้อาวุธปืนและปืนไฟฟ้า
พล.ต.ต.ณัญพงษ์ สัตานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยอมรับว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ การทำงานของตำรวจพบว่า คนร้ายหรือผู้ก่อเหตุ มักจะมีหรือใช้อาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ขณะเข้าระงับเหตุ จนทำให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียกำลังพลอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการทบทวนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพกำลังพลรวมไปถึงการตรวจเช็คเครื่องมือและอุปกรณ์ให้มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา เช่นเดียวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตำรวจเองอาจจะเสริมเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ยังได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าประจำเวรทุกหน่วยทุกนาย จะต้องพร้อมรับมือสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะร้อยเวร 20 หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่สายตรวจ จะต้องเข้าใจขั้นตอนการปฎิบัติอย่างเข้มงวด เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในการประสบเหตุเป็นชุดแรก