ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ
วันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานว่าหลังจากตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 มีการร้องเรียนปัญหาการปล่อยน้ำเสียสีดำคล้ำ มีกลิ่นเน่าเหม็น จากท่อน้ำทิ้งบริเวณสันเขื่อนกันคลื่นลงชายหาดโดยไม่ผ่านการบำบัดหลายจุดตั้งแต่หน้ากองบิน 5 ถึงด้านหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข ล่าสุดผู้ประกอบการในตลาดถนนคนเดินบนถนนเลียบหาดร้องเรียนว่าน้ำจากท่อมีสีดำมีกลิ่นเหม็นไหลลงหาดมีผลกระทบกับการตั้งร้านค้า และ กระทบกับการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลวันแม่แห่งชาติ
จากนั้นได้แจ้งให้ตัวแทนจากคณะทำงานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปตรวจบันทึกหลักฐาน และ เข้าแจ้งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ โดยผู้ประกอบการในตลาดถนนคนเดินพร้อมไปให้ปากคำเป็นพยาน เพื่อเอาผิดกับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2535 เอาผิดหัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 3 ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 119 พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.สาธารณสุข ผอ.องค์การจัดน้ำเสียประจวบฯ ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จ.เพชรบุรี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
เนื่องจากที่ผ่านมามีผลการตรวจคุณภาพน้ำทิ้ง จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 พบว่าน้ำเสียจากชุมชนที่ไหลลงหาดโดยไม่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสีย มีค่าเกินมาตรฐานที่กำหนด ทำให้สำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 3 แจ้งดำเนินคดีเอาผิดกับเทศบาลเมืองประจวบฯตามมาตรา 119 พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 มีโทษให้ชดใช้ค่าเสียหาย
นายชัยสิทธิ์ ปลั่งศรีสกุล คณะทำงานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เครือข่ายฯจะตรวจสอบและเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเนื่อง กรณีปล่อยน้ำเสียไหลไหลลงชายหาดใกล้กับศาลากลางจังหวัด เพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง หลังจากตัวแทนเครือข่ายฯเข้าแจ้งความหลายครั้ง โดยเฉพาะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่า ปลัดเทศบาลเมืองประจวบฯ เจ้าหน้าที่ ทส.จ. ร่วมตรวจสอบน้ำเสียจากท่อไหลลงหาดที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมหาดทอง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 พบเป็นความผิดโดยซึ่งหน้า
แต่ไม่แจ้งความเอาผิดตามอำนาจหน้าที่ ขณะที่การปล่อยเสียลงหาดอย่างต่อเนื่องทำให้มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับระบบนิเวศชายฝั่งอย่างรุนแรง แต่หน่วยงานรัฐไม่ได้ให้ความสนใจ ทั้งที่ชายหาดประจวบฯเป็นแลนมาร์คสำคัญด้านการท่องเที่ยวระดับชาติ
////////////////////////////////////////