ภาพ-ข่าว สมบัติ ลิมปจีระวงษ์
วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม สีเทา เขียว ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ สวมหมวกแก็ปสีแดง เดินถือถุงสีขาว เดินเข้าในโครงการบ้านนิมิตใหม่ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านจัดสรรที่สร้างใหม่ เข้าไปเปิดประตูหน้าบ้านเดินเข้าไปตัดเอาสายไฟที่ร้อยไว้ในท่อรอบๆบ้าน ถูกคนร้ายมาตัดเอาสายไฟไปเป็นจำนวนหลายหลัง ใส่ถุงผ้าสีขาวเตรียมรีบเดินมาตามที่ภาพกล้องวงจรจับภาพได้ 
ผู้จัดการโครงการเข้ามาตรวจสอบตามบ้านแต่ละหลังจึงพบว่าบ้านหลังใหม่ที่เจ้าของยังไม่เข้ามาอาศัย จำนวน 4 หลัง ถูกขโมยลักตัดเอาสายไฟไปทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางไปแจ้งความพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รุดตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าสายไฟที่ถูกคนร้ายตัดเอาไปเป็นสายไฟที่ร้อยท่อไว้รอบบ้านถูกดึงออกไปตรวจสอบรอบและบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลัก พร้อมได้ภาพวงจรปิดภายในโครงการไปตรวจสอบ ก็พบผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน
พ.ต.อ.อภิธาน ปานอุทัย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พงศ์บุณย์ดี รองผู้กำกับฯ พร้อมชุดสืบสวนฯ เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็วเพื่อไม่ประชาชนเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ เห็นภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายวัยรุ่น ผู้ก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 65 เวลาประมาณ 12.00 น. โดยผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานเข้ามาในโครงการ เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนายพีรนัฐ ศรีพนม อายุ 23 ปี ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พักอาศัยอยู่ที่เมรุเผาศพ วัดแห่งหนึ่ง ใน ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม พร้อมรถจักรยาน เสื้อผ้า หมวก คีมตัดสายไฟ ที่ใช้ในวันที่ก่อเหตุ พร้อมสายไฟที่ยังไม่ได้ปอก ยาว 15 เมตร 2 เส้น น้ำหนัก 3.6 ก.ก. สายไฟที่ปอกเอาลวดทองแดงออกไปแล้วจำนวนหนึ่ง 
จากการสอบสวนนายนัฐ ผู้ก่อเหตุให้การว่า นำสายไฟที่ลักมาซ่อนไว้ป่าข้างเมรุที่ใช้เป็นที่หลับนอน แล้วนำมาปอกเอาลวดทองแดงออกไปขายให้กับคนรับซื้อของเก่า ในราคากิโลกรัม150 บาท เงินที่ได้เอาไปซื้อกัญชามาสูบ โดยสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว จักรยานที่ใช้ก็ไปหยิบเอาของคนอื่นมาโดยเจ้าของไม่รู้ อ้างว่าทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
///////////////////////////////////
