ประจวบคีรีขันธ์  รองผู้ว่าฯ เปิดแถลงข่าวจัด“วิ่ง ขยับ นับแคล @ประจวบคีรีขันธ์” ส่งเสริมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชั่น CCC** บุญมา ลิบลับ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

ประจวบคีรีขันธ์  รองผู้ว่าฯ เปิดแถลงข่าวจัด“วิ่ง ขยับ นับแคล @ประจวบคีรีขันธ์” ส่งเสริมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชั่น CCC

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ส.ค.2566 ที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายสะสม ผ่านแอปพลิเคชั่น CCC (Calories Credit Challenge) ระดับจังหวัด ประจำปี 2566 “วิ่ง ขยับ นับแคล @ประจวบคีรีขันธ์”

โดยมี น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด กล่าวรายงาน และมี นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี นางจารุรัตน์ พัฒน์ทอง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นางวรรณา ศรีจุฬางกูล รองนายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ นายโพสิทธิ์ เครือวัลย์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน เจ้าหน้าที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสื่อมวลชน เข้าร่วม

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าฯรักษาการผู้ว่าราชการ จังหวัดฯ กล่าวว่า นโยบายการส่งเสริมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาของจังหวัดประจวบฯ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ซึ่งกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย ภายใต้ชื่อ “วิ่ง ขยับ นับแคล @ ประจวบคีรีขันธ์” ทั้งนี้การออกกำลังการของประชาชน เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพ และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดความเครียดจากการทำงาน ลดโอกาสการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคในกลุ่ม NCDs ลดค่าใช้จ่าย

ด้านสาธารณสุข และเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมโดยรวม โดยที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลศิริราช สสส. หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัด “โครงการแสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8” โดยใช้แอปพลิเคชัน CCC (Calories Credit Challenge) เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมประชาชน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 30 ตุลาคม 2565 เพื่อขับเคลื่อนส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและใช้แอปพลิเคชัน CCC (Calories Credit Challenge)

โดยมีปะชาชนร่วมกิจกรรมออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ รวมทั้งสิ้นคิดเป็น 91.5 ล้านแคลอรี่ คิดเป็นพลังงานที่ใช้ในการเดินหรือวิ่งระยะทาง 1.85 ล้านกิโลเมตร หรือคิดเป็นการเดินรอบโลกประมาณ 47 รอบ

ด้าน น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเป้าหมายส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของประชาชากร ในปี 2570 สำหรับในปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีเป้าหมายให้มีผู้ใช้แอปพลิเคชัน CCC จำนวน 2 ล้านคน โดยการขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชั่น CCC ในระดับ จังหวัดประจำปี 2566 โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายในรูปแบบที่ท้าทาย

(Challenge) โดยมอบหมายสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมการออกกำลังกายในระดับอำเภอ/จังหวัด การประชาสัมพันธ์กิจกรรมการใช้แอปพลิเคชั่น CCC โดยกำหนดระยะเวลาในการส่งเสริมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่และรวบรวมผลการดำเนินงาน

ของทุก Challenge ในระดับอำเภอและจังหวัด ระหว่างเดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม 2566 จำนวน 100 วัน ทั้งนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะมอบใบประกาศนียบัตรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้กับผู้ผ่านเกณฑ์การออกกำลังกายที่กระทรวงฯกำหนดไว้ ภายใต้โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลสถิติการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของประชาชน (Calories Credit Challenge)

ทั้งนี้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯได้กำหนดดำเนินการกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชั่น CCC ในระดับจังหวัดฯ “วิ่ง ขยับ นับแคล @ ประจวบคีรีขันธ์” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี ส่งเสริมกีฬาขั้นพื้นฐาน และกีฬาเพื่อมวลชน ลดโอกาสการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคในกลุ่ม NCDs เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน และสังคมโดยรวมของจังหวัด และสนับสนุนใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย

และเล่นกีฬารวบรวมเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ ประมวลผล พฤติกรรมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาของประชาชนชาวไทย และเพื่อใช้ในการพัฒนากีฬามวลชนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต โดยกำหนดการจัดกิจกรรมวิ่งขยับ นับแคล @ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2566 เวลา 06.00 น. ณ สะพานสราญวิถี หน้าอ่าวประจวบฯ อ.เมือง จ.ประจวบฯ โดยใช้เส้นทางผ่าน Streer Art ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก ชุมชนหัวบ้าน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวถนนสู้ศึกอีกทางหนึ่งด้วย

** บุญมา ลิบลับ รายงาน