สระบุรี คืบหน้า พ่อแม่โวยครูตบกกหูลูกชาย13ปีแก้วหูทะลุเหตุแต่งตัวผิดระเบียบ
วันที่ 8 มีนาคม 2567 จากกรณีที่มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนเข้าร้องเรียนกับทีมข่าวว่ามีครูฝ่ายปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค จ.สระบุรี ลงโทษลูกชายวัย13ปี เนื่องจากสาเหตุมาโรงเรียนสายและแต่งตัวผิดระเบียบ โดยครูผู้ชายฝ่ายปกครองของโรงเรียนทำโทษโดยใช้มือตบอย่างแรงไปที่กกหูของลูกชายและยังมีเด็กนักเรียนเพื่อนของลูกชายถูกตบที่หัวอีก 3 คน
ช่วงเที่ยงของวันนี้ นายจักรพันธ์ นางณิชาภัทร์ ไพฑูรย์ พ่อกับแม่ของด.ช.เอ(นามสมมุติ)อายุ13ปีชาวอ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีพร้อมทนายได้เข้าแจ้งความที่สภ.หนองแค เพื่อเอาผิดกับครูฝ่ายปกครอง พร้อมนำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลสระบุรี ที่ระบุอาการเบื้องต้นจากการตรวจพบว่า แก้วหูข้างขวาทะลุ ซึ่งแก้วหูเนื้อเยื้อยังอักเสบและบวมยังไม่สามารถตรวจอย่างละเอียดได้ พร้อมมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรี ดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพด้านร่างกาย จิตใจและประเด็นต่าง ๆ เข้าให้คำปรึกษาในการช่วยเหลือ นายจักรพันธ์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าลูกชายวัย13ปี อยู่ชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอหนองแค ถูกครูผู้ชายฝ่ายปกครอง ตบที่กกหูข้างขวาจนมีเลือดไหลซึมออกมา ซึ่งครูคนดังกล่าวอ้างว่าลูกชายแต่งตัวผิดระเบียบและเข้าเรียนสาย ซึ่งครูคนดังกล่าวได้ทำโทษนักเรียนทั้งหมด 4 คนรวมลูกชายของตน ส่วนนักเรียนอีก 3 คน โดนครูคนดังกล่าวตบที่หัว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน(7มี.ค.)เวลา08.00 น. ตนเองมาทราบเรื่องเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานลูกชายมาบอกเจ็บที่หูเนื่องจากถูกครูตบที่กกหูด้านขวา ตนถึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามครูฝ่ายปกครองคนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่าเหตุการณ์ครูยอมรับว่าจริงและขอโทษตนและครอบครัวพร้อมยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ตนไม่รับเงินพร้อมปฏิเสธ ส่วนตอนนี้ลูกชายของตนมีอาการวาดกลัว ซึม ไม่ยากไปเรียนที่โรงเรียนเดิมแล้ว ตนพร้อมจะรับคำขอโทษจากครูคนดังกล่าว แต่จะขอดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ล่าสุดช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมาทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อขอทราบข้อมูลจากครูฝ่ายปกครองที่ก่อเหตุใช้มือตบกกหูเด็กนักเรียน รับแจ้งจาก นายดิถี เหมือนแม้น รองผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าครูคนดังกล่าวลาไม่ได้เข้ามาสอนในวันนี้ ทีมข่าวจึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายดิถี เหมือนแม้น รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เผยว่าทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจได้ดำเนินการตามขั้นตอน เรียกครูปกครองคนดังกล่าวมาสอบถามข้อมูลไปแล้ว ส่วนที่มีการทำโทษเด็กนักเรียนเนื่องจากเด็กเรียนไม่เข้าแถวทำกิจกรรมในช่วงเช้า และแต่งกายผิดระเบียบของโรงเรียนครูคนดังกล่าวจึงได้เรียกมาทำโทษ ในส่วนของผู้คนดังกล่าวได้ให้ทำบันทึกชี้แจงแล้วพร้อมแจงไปยังต้นสังกัดให้รับทราบ พร้อมให้ตั้งกรรมการตรวจสอบวินัยหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ครูคนดังกล่าวทำหน้าที่ฝ่ายปกครองของโรงเรียนสอนระดับมัธยมตอนต้น ซึ่งครูคนดังกล่าวไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงมาก่อนอาจจะเกิดขึ้นของจังหวะการทำโทษ ถึงทำเกินกว่าเหตุ ทางคณะผู้บริหารโรงเรียนได้พูดคุยกับผู้ปกครองของไปเบื้องต้นแล้ว เด็กนักเรียนคนดังกล่าวยังมีสิทธิเรียนที่โรงเรียนนี้ตามปกติ
ซึ่งช่วงนี้เป็นสอบของภาคเรียน เด็กนักเรียนสามารถเข้าสอบได้จะมีครูคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วงเด็กพักรักษาตัว เด็กนักเรียนคนดังกล่าวอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ทางคณะผู้บริหารได้นำกระเช้าไปเยี่ยมเด็กนักเรียนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางคณะครูมีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมทั้งสอบถามอาการของเด็กนักเรียน ทางโรงเรียนยากทราบข้อมูลที่แท้จริงเพื่อจะนำมาปรับปรุงแก้ไข สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ปกครองทุกท่านว่าเหรียญมี 2 ด้านทางโรงเรียนพร้อมรับฟังทั้ง2ฝ่าย
** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน
