กกล.บูรพา และ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว บูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับ หน่วยงานของ จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา

แชร์ข่าวนี้

 

กกล.บูรพา และ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว บูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับ หน่วยงานของ จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. เรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามสถานการณ์ปัญหาจุดความร้อนหรือ hotspot และให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาเชิงรุกเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผบ.ศปก.ทบ. ได้กรุณาสั่งการให้ กกล.ป้องกันชายแดน ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์หยุดการเผาหรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน ส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม ผบ.ศปก.ทภ.1 จึงได้สั่งการให้ กกล.บูรพา และ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว บูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับ หน่วยงานของ จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 67 ซึ่ง พล.ต.เทพพิทักษ์  นิมิตร หน.สน.ปทก.ทภ.1/ผบ.กกล.บูรพา และ พล.ต.ลาย กึม ฮวด รอง หน.สน.ปทก. ร่วมกันเป็นประธาน จัดการประชุมส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน ทั้ง 2 ประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกัน ซึ่งในที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าควรจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนงดเผาหรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน รวมถึงการร่วมกันแก้ไขปัญหาตามแผนงานราชการของไทย และ กัมพูชา ภายหลังจากที่มีการประชุมร่วมกันแล้ว ทั้ง ฝ่ายไทย และ ฝ่ายกัมพูชา ได้ให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ชายแดนเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับประชาชน ในการงดเผาในที่โล่งแจ้ง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ดำเนินการเร่งด่วนในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน จังหวัดสระแก้ว และ พื้นที่จังหวัดคู่มิตรของกัมพูชา ดังนี้

  1. ติดตั้งป้ายรณรงค์หยุดเผาหรือทำการอื่นใด ที่ก่อให้เกิดหมอกควันตามจุดสำคัญในพื้นที่อำเภอชายแดน เช่น จุดผ่อนปรนทางการค้า, จุดผ่านแดนถาวร หรือพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนของทั้ง 2 ประเทศอยู่ร่วมกันหนาแน่น จำนวน 8 จุด
  2. ชป.กร.กกล.บูรพา ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการหยุดเผา หรือทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดหมอกควัน เพื่อลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่อำเภอชายแดน จำนวน 38 ครั้ง
  3. หน่วยเฉพาะกิจป้องกันชายแดน ร่วมกับ หน่วยงานราชการในพื้นที่ และ มวลชนของหน่วย (อส.กร.) รวมถึง หน่วยงานราชการของประเทศกัมพูชา ร่วมเดินขบวนรณรงค์ในพื้นที่อำเภอชายแดนทั้ง 2 ประเทศ จำนวน 9 ครั้ง
  4. ฝ่ายกัมพูชา ให้หน่วยงานราชการ ร่วมกับ ประชาชนในพื้นที่ชายแดนฝั่งกัมพูชา รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการงดเผาในที่โล่งแจ้ง จำนวน 4 ครั้ง ได้แก่ พื้นที่ จุดผ่านแดนปอยเปต, บ.สามัคคีเมียนเจย, บ.ปรีกรุ๊ป ต.โอรไซร กรุงปอยเปต และ พื้นที่ บ.สวายปรี ต.โอร์สเลา อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา

โดยการปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการและประชาชนของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงการลดการเผา นำมาซึ่งผลการแสดงจุดความร้อน และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.67 ฝั่งไทยโดยกองกำลังบูรพา และจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกันหารือกับทางจังหวัดบันเตียเมียนเจยประเทศกัมพูชาอีกครั้ง ผ่านการประชุมระดับพื้นที่ระหว่างจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ณ ศาลากลางจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เพื่อนำสรุปผลการปฏิบัติในการรณรงค์ร่วมกันแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ด PM 2.5 ของทั้งจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยทั้งจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ของประเทศกัมพูชา ได้ตกลงร่วมกันว่าจะทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ มีแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้น เพื่อทำให้สุขภาพร่างกายของทั้งคนไทยและกัมพูชาแข็งแรง อย่างยั่งยืนตลอดไป

** ภาพข่าว กกล.//นายสุพจน์บดินทร์ จัด)กุ่มประสิทธิ์…รายงาน