นนทบุรี เปิดใจลูกบ้านประชุมนิติโดนต่อยฟันหัก ตัดพ้อเหมือนโดนคุกคามไม่มีความปลอดภัยประกาศขายบ้านแล้ว

แชร์ข่าวนี้

 

นนทบุรี เปิดใจลูกบ้านประชุมนิติโดนต่อยฟันหัก ตัดพ้อเหมือนโดนคุกคามไม่มีความปลอดภัยประกาศขายบ้านแล้ว

วันที่ 31 ก.ค.67 เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ซึ่งเป็นบ้านของนาย กำพล หรือยม รัตนสินชัยกุล อายุ 35 ปี (ผู้เสียหาย) และ น.ส.ส้ม (นามสมมุติ) แฟนสาวอายุ 34 ปี บ้านเป็นลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ภายในบ้านมีการเลี้ยงไก่แจ้ประมาณ 20 ตัว โดยเลี้ยงอยู่ในกรง และมีเป็ดอีก 4 ตัว เลี้ยงอยู่บริเวณด้านหลังบ้านและมีนก 2 ตัว,มีหมา 1 ตัวและมีแมว 1 ตัว โดยนายกำพลและแฟนสาวเปิดบ้านพาชมพร้อมขอระบายความในใจ ตัดพ้อเหมือนโดนคุกคาม และไม่ได้รับความเป็นธรรม ประกาศขายบ้านทันที ส่วนสัตว์เลี้ยงพวกไก่กับเป็ดจะนำไปปล่อย

 

นาย กำพล หรือยม  กล่าวว่า ตนอยากขอระบายความในใจเรื่องที่มีเพื่อนบ้านมาร้องเรียน เรื่องเสียงสัตว์ที่ส่งเสียงดังรบกวนและส่งกลิ่นเหม็นของสัตว์เลี้ยงและการขับรถของการที่เขากล่าวหาว่าตนขับรถเร็วและชอบสตาร์ทรถทิ้งไว้ วันนี้ขอสตาร์ทรถให้ดูพร้อมขอชี้แจงว่ารถตนไม่แต่งหรือทำท่อมา เสียงเหมือนรถปกติและการขับขี่ตนก็ขับความเร็วแค่30กม./ชม.เท่านั้น แต่ในคลิปอาจจะดูเหมือนว่าเร็ว ส่วนเรื่องที่ทำไมเวลามาจอดต้องสตาร์ทเอาไว้ไม่ยอมดับเครื่องเลยทันที เป็นเพราะว่ารถของตนมีระบบรักษาเครื่องยนต์คือถ้าใครขับรถประเภทดีเซลจะรู้ว่าถ้าขับรถมาไกลๆหรือนานๆ ไม่ควรดับเครื่องเลยทันที มันเป็นระบบที่ทำเพิ่มมาขนาดดึงกุญแจออกแล้วรถยังไม่ดับเลย ส่วนเรื่องที่ตนถูกทำร้ายตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาขอโทษหรือช่วยเหลือเยียวยาอะไร ขนาดประธานหมู่บ้านกับนิติฯ ยังไม่เข้ามาดูตนเลย

ด้าน น.ส.ส้ม(นามสมมุติ) เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าครอบครัวตนเหมือนโดนรังแกตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะว่าทางนิติฯได้ให้ รปภ.ขี่รถคอยตามครอบครัวตนมาตลอดไม่ว่าจะไปไหนหรือเข้าบ้านกี่โมงก็จะมี รปภ.คอยตามดูและรายงานให้ทางนิติฯเสมอ จนาดดึกๆ ตี 2-3 ก็ยังขี่รถเข้ามาดู ส่วนเรื่องไก่ตอนแรกตนซื้อมาเลี้ยงแค่ 2 ตัว เลี้ยงมาได้ประมาณ 2 ปี มันก็ออกไข่ ตอนนี้มีประมาณ 20 ตัว แต่เราเลี้ยงอยู่ในกรงไม่ได้เลี้ยงแบบปล่อย ก็มีเสียงไก่ขันบ้างในตอนเช้าซึ่งเป็นปกติของไก่ แต่ไม่ได้ส่งเสียงดังตลอดทั้งวัน ส่วนเป็ดตนซท้อมาเลี้ยงอยู่หลังบ้าน 4 ตัว ทำโซนเอาไว้ไม่ได้ปล่อยให้เดินไปทั่วบ้าน ก็จะให้น้องชายเป็นคนดูแลตวามสะอาดเก็บขี้ไก่และเป็ดทุกวัน ก็มีกลิ่นบ้างแต่ไม่ได้เหม็นขนาดที่เพื่อนบ้านเอาไปร้องเรียน

น.ส.ส้ม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้ครอบครัวตนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คนสวมชุดสีดำเข้ามาที่บ้านตนตอนกลางคืนพร้อมกับนิติฯและประธานหมู่บ้าน เพื่อที่จะมาขอคุย แต่ตนมองว่าถ้าจะมาคุยไม่จำเป็นต้องมาเยอะขนาดนี้และยังมาในเวลากลางคืนอีกด้วย ทุกวันนี้ก็ยังมี รปภ.ตามดูอยู่ เหมือนโดนคุกคามไม่มีความเป็นส่วนตัว

กล้องวงจรปิดของหมู่บ้านที่ควรจะหันไปที่ถนนและบันทึกภาพเวลามีคนเข้าออกก็เหมือนถูกหันให้ส่องมาที่บ้านของตนโดยเฉพาะเหมือนโดนจ้องจับผิดตลอด ส่วนเรื่องที่แฟนตนโดนทำร้ายตนยังติดใจสงสัยในการทำงานของนิติฯและ รปภ.ที่เป็นคนพาคนก่อเหตุซ้อนท้ายหนีไปในตอนแรก ขอคำชี้แจงจากนิติฯก็ไม่ได้อะไร ขนาดตอนเกิดเรื่องคนก่อเหตุเดินออกใาจากห้องตนร้องตะโกนบอกให้ รปภ.ช่วยควบคุมตัวเอาไว้หน่อยเขาก็ยืนเฉยกันให้โทรแจ้งตำรวจก็ไม่มีใครโทรให้ตนต้องเป็นคนโทรแจ้งเอง

ก่อนหน้านี้พอถามรปภ.ถึงเหตุผลเรื่องที่นิติฯให้คอยตามดูครอบครัวตนทุกวัน รปภ.ก็ตอบไม่ได้ แต่จะให้ไปถามที่นิติฯตนก็ไม่อยากเข้าไปถามแล้ว เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายอีก ตอนนี้ประกาศขายบ้านแล้วหากใครสนใจเข้ามาดูได้เลยตนขอรับผิดชอบในส่วนที่ตนทำ แต่ในส่วนที่ครอบครัวตนโดนกระทำแบบนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งสภาพจิตใจตอนนี้ต้องระแวงว่าใครจะมาคอยตาม คอยดู ไม่รู้ว่าวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวตนเอง