สระบุรี หลายหน่วยงานเร่งตรวจสอบแก้ไขปัญหาน้ำประปาเขตเทศบาลเมืองเน่าเหม็น** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี หลายหน่วยงานเร่งตรวจสอบแก้ไขปัญหาน้ำประปาเขตเทศบาลเมืองเน่าเหม็น

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหลายชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสระบุรี ส่งผลกระทบกับชาวบ้านหลายพันครัวเรือน ว่าน้ำประปามีกลิ่นเหม็น และขุ่น ภายในภาชนะที่ใช้รองน้ำจะมีตะกอนขุ่นกองอยู่ภายในก้นภาชนะ ใช้อาบก็ไม่ได้ แปรงฟันก็ไม่ได้มีกลิ่นเหม็นมาก บางคนแพ้ถึงกับมีผื่นคันขึ้นตามตัว ทุกวันนี้ต้องซื้อน้ำถังมาใช้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณ คลองชลประทาน ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำ ของสำนักงานชลประทาน ตำบลปากเพรียวอำเภอเมืองสระบุรี พบว่า น้ำในคลองชลประทาน มีกลิ่นเน่า เหม็นคละคลุ้งและมีฟอง ไหล ไปตามลำคลองชลประทาน เพื่อลงสู่แม่น้ำป่าสักก่อน จะ เข้าสู่ระบบน้ำประปา ของเทศบาลเมืองสระบุรี โดย  น้ำประปาเหม็นเน่า เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรน้ำถึงได้มีกลิ่นเหม็นเน่าและมีฟอง ลอยเป็นแพขนาดนั้น ซึ่งปกติ หากน้ำฝนหรือน้ำจาก แหล่งน้ำ ที่ไหลหมุนเวียน ตามปกติ จะไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าหรือมีฟองขนาดนี้

ล่าสุดหลายหน่วยงานเร่งประชุมแก้ไขปัญหาน้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองสระบุรี ส่งกลิ่นเห็นเน่า โดยมีนายอำเภอเมืองสระบุรี พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ท้องถิ่นจังหวัด และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุ และแนวทางในการแก้ไข โดยนายณรงค์ศักดิ์ สุวรรณวงศ์ วิศวกรชำนาญการอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี เผยว่าทางอุสาหกรรมจังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งมลพิษโดยมองไปทางแหล่งมลพิษที่เป็นโรงงานในพื้นที่ ซึ่งมีหลายจุดที่เป็นโรงงานกำจัดกากอุสาหกรรม ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.แก่งคอย และ อ.เมือง พร้อมลงตรวจสอบสภาพน้ำที่แต่ละจุดไหลลงมารวมที่อ่างเก็บน้ำคลองเพรียว

ซึ่งมีหลายจุด และเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อที่จะนำมาตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่หลายจุดที่พบว่าน้ำมีกลิ่น และเป็นสีดำเน่า และมีปลาลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ้งกลิ่นที่ได้จะเป็นกลิ่นของน้ำที่ออกจะฉุนๆจมูก บางจุดพบว่าน้ำมีฟองเนื่องจากว่าน้ำต่างระดับไหลลงมาตกกระทบสัมผัสกับอากาศเข้าไปจึงทำให้เกิดการทำกฏิกริยาทางอากาศ ออกซิเจนกับน้ำ ซึ่งเป็นการเติมอากาศในน้ำ จึงเกิดน้ำตีฟองขึ้นมา ส่วนน้ำที่นิ่งจะเกิดตะกอนนอนก้นน้ำจะเกิดมีสีคล้ำขุ่น แต่ว่ามีวัชพืชขึ้น ซึ่งไม่ได้บงบอกว่าวัชพืชได้ตายลงไปอาจจะเป็นแค่อินทรีย์ ส่วนน้ำสีเข้มเป็นธรรมชาติขยะที่อาจจะมีกลิ่น และสีที่ปนมากับน้ำ ซึ่งเป็นน้ำชะล้าง และทางอุตสาหกรรมฯไม่ได้อนุญาตให้ทางโรงงานระบายน้ำทิ้ง น้ำเสีย น้ำฝนที่ไหลลงมาก็จะจากที่สูงก็ชะล้างสิ่งต่างๆลงมาด้วย

ซึ่งหลังจากเก็บตัวอย่างน้ำแล้วแทบทุกจุดที่ตรวจสอบน้ำจะมีกลิ่นเน่าเหม็น และมีสิ่งเจอปนอยู่ในน้ำ ซึ่งทางอุสาหกรรมฯก็ยังไม่ทราบว่าเป็นตัวสารหรือตัวอะไรที่เจือปนมา เป็นตะกอนหนักหรือเป็นผงฝุ่น ซึ่งตอนนี้ได้นำตัวอย่างน้ำเข้าไปตรวจสอบค่าคุณสมบัติน้ำ ตามคุณภาพน้ำตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะตรวจสอบค่าสิ่งเจือปน และสารแขวนลอย ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่พบค่าผิดปกติ เนื่องจากว่าเพิ่งเก็บตัวอย่างน้ำเข้าไปตรวจสอบ

โดยใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ส่วนกลิ่นที่พบคาดว่าเกิดจากโรงงานรับกำจัดขยะกากอุตสาหกรรม และมีขยะในชุมชนเจือปนมาด้วย กลิ่นเหม็นก็จะเกิดจากอินทรีย์ หรือมูลสัตว์ซึ่งยังไม่สามารถตัดอะไรออกได้ เนื่องจากว่ากลิ่นที่เกิดเมื่อโดนอากาศก็จะทำปฏิกริยากับน้ำที่มีการเจือปนจึงเกิดการฟุ้งกระจายขึ้นมา ซึ่งอยากฝากเตือนประชาชนที่ใช้น้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองสระบุรี จากการที่ดูลักษณะทางกายภาพ ทั้งสี ทั้งกลิ่น ควรจะระมัดระวังในการใช้น้ำประปา เพราะว่ายังไม่ทราบว่ามีสิ่งใดเจือปนลงมา

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน