นนทบุรี วงจรปิด พ่อร้อง สส.ปัญญารัตน์ ลูกชายนศ.วิศวะปี 2 ประสบอุบัติเหตุนอนติดเตียง ไม่มีเงินรักษา หนำซ้ำต้องดรอปเรียน
จากกรณีที่ช่างรับทำป้ายไวนิล ซึ่งอดีตเคยทำป้ายหาเสียงให้พรรคก้าวไกล ได้ร้องเรียนผ่านมาทางนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 2 จ.นนทบุรี ขอให้ช่วยเหลือหลังลูกชาย วัย 16 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปวช.ปีที่ 1 (กำลังจะขึ้นปวช.ปี 2) คณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชน ได้รับบาดเจ็บสมองกระทบกระเทือนจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หนำซ้ำเป็นแผลกดทับ ต้องคอยดูแลไม่ห่าง จนแทบไม่มีงานไม่มีเงิน
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 67 นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 2 จ.นนทบุรี นายวราธ์ โมรัฐสเถียร ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสส.ปัญญารัตน์ฯ และทีมงาน ลงพื้นที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อพบกับนายสาคร นะวะสิมัยนาม
นางปัญญารัตน์ ถึงกับตกใจบอกว่านายสาครผอมลงไปเยอะมาก จากที่เคยเจอช่วงหาเสียง ที่มาจ้างให้นายสาคร ผลิตป้ายไวนิล โลโก้พรรคให้ วันนี้ดูซูบผอมลงไปมาก หน้าตาหมองคล้ำ และที่น่าสลดคือนายสุนทร นะวะสิมัยนาม อายุ 16 ปี นักศึกษาปวช. ชั้นปีที่ 1 (กำลังจะขึ้นปวช.ปี 2) คณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ลูกชายของนายสาคร ที่ตนเคยเห็นว่ามาช่วยพ่อทำงานออกแบบป้าย วันนี้นอนติดเตียง ไร้สติ ยิ่งไปกว่านั้น ลูกชายที่นอนติดเตียงมีแผลกดทับจากการนอนติดเตียงที่บริเวณบั้นท้าย ลักษณะผิวหนังติดเชื้อ เป็นแผลลึก เป็นวงกว้างขนาด 4 นิ้วมือ
นายสาคร เล่าว่า ลูกชายประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง และรถแท็กซี่ ทำให้สมองกระทบกระเทือน กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยลูกชายได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้เดือนกว่า มานอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน สิ่งที่นายสาครรู้สึกกังวลใจเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาลลูกชาย จากที่ตนไปเฝ้าดูอาการลูกชาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงมิถุนายน ได้พบแพทย์เจ้าของคนไข้ เพียง 3 ครั้ง และที่โรงพยาบาลได้รักษาลูกชายโดยใช้สิทธิ์พรบ. และสิทธิ์ 30 บาท แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุของมหาวิทยาลัย ที่ลูกชายเรียนอยู่เลย ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าหากจะใช้สิทธิ์ประกันทางพ่อ ต้องหาเงินสำรองจ่ายก่อน ซึ่งตัวนายสาครจึงแจ้งว่าตนไม่มีเงินสำรองจ่าย เพราะค่ารักษาพยาบาลของลูกชายค่อนข้างที่จะสูงมาก จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ตามที่ทางโรงพยาบาลแจ้งไว้ จึงอยากให้สส.ปัญญารัตน์ และสื่อช่วยติดตามเรื่องนี้ เชื่อว่าลูกชายน่าจะได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ และหวังว่าลูกชายจะมีอาการดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ล่าสุดลูกชายมีอาการชักและกัดลิ้นตัวเองจนเป็นแผล เลือดไหลเต็มไปหมด ก็ต้องพากลับไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ยิ่งทำให้นายสาครมีความกังวลมาก
ด้านนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 2 จ.นนทบุรี ที่วันนี้เดินทางมาพร้อมกับทีมข่าว ได้นำแพมเพิส และนมกล่องมามอบให้นายสาคร เพื่อใช้ดูแลลูกชาย และได้รับเรื่องร้องเรียนให้ หลังจากนี้จะทำการประสานไปยังมหาวิทยาลัยของน้อง เพื่อประสานในเรื่องของประกันอุบัติเหตุของตัวน้องที่ประสบเหตุแล้วไม่ได้ใช้ในการรักษา และจะติดตามดูอสม.ในพื้นที่ในการลงพื้นที่มาดูแลเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง กรณีเกิดแผลกดทับเพราะเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะแผลกดทับเสียงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ขอประชาสัมพันธ์เผื่อผู้ใจบุญ ที่เห็นข่าวนี้สามารถนำครีม หรือยารักษาแผลกดทับ แพมเพิส อาหารเหลว มาบริจาค ให้นายสาคร จะได้มีแรงมีกำลังในการดูแลลูกชายต่อไป
