เพชรบุรี ราชเลขานุการในพระองค์ พร้อม มท.1 ลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเพชร และติดตามสถานการณ์น้ำเพชรบุรี
วันนี้ 19 สิงหาคม 67 พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาตลาดสดริมแม่น้ำเพชรบุรีและส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมลงพื้นที่ บริเวณตลาดริมน้ำเพชรบุรี เพื่อรับฟังบรรยายรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี และปรับภูมิทัศน์ลานอนุสาวรีย์สุนทรภู่ การบริหารความเชื่อมต่อระหว่างลานจอดรถ วัด สะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี และตลาดริมน้ำเพชรบุรี การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี การบริหารจัดการตลาดริมน้ำเพชรบุรีให้มีความยั่งยืน และการหารือถึงแนวทางการเชื่อมต่อวิถี อัตลักษณ์ การท่องเที่ยวของ จังหวัดเพชรบุรี ให้มีความยั่งยืน
พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงมหาไทย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำเพชรบุรี กำชับ ปภ.จังหวัด ต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีฉุกเฉิน เกาะติดอุทกภัย ตลอด 24 ชม. ตรวจเช็คสภาพเครื่องจักร และรถปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และรับฟังการรายงานสถานการณ์ระดับแม่น้ำเพชรบุรี ชมการสาธิตการกู้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัย เครื่องผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เตรียมความพร้อมสำหรับการกู้ภัย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในอุปกรณ์กู้ภัย และการช่วยเหลือจากทาง ปภ.จังหวัด
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เป็นฤดูน้ำหลากและจังหวัดเพชรบุรีมีแม่น้ำเพชรบุรีไหลผ่านในพื้นที่อำเภอเมือง และหลายอำเภอ ซึ่งหากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมตลิ่ง หรือบริเวณริมแม่น้ำอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ดังนั้นจึงได้เน้นย้ำให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และ ปภ.จังหวัด เร่งดำเนินการตั้งคณะทำงานด้านการติดตามสถานการณ์น้ำ ด้านการบริหารจัดการน้ำ และด้านการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนเชิงรุกในทุกพื้นที่เอาไว้ เพื่อให้มีความพร้อมสามารถออกปฏิบัติการอำนวยความสะดวกหากเกิดกรณีฝนตกหนักได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึง ได้สั่งการให้ผู้นำในพื้นที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา ระดมสรรพกำลังร่วมกันเฝ้าระวังน้ำท่วมทำความสะอาดกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ โดยทุกด้านทั้งข้อมูลน้ำและการช่วยเหลือประชาชนต้องมีความพร้อม 24 ชั่วโมง”
** บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ รายงาน
