“ทนายษิทรา”พาหัวคะแนน ปชป.บุกโรงพักปากน้ำปราณ จี้ตำรวจเร่งสางคดีกำนันสามร้อยยอดยิงปืนหน้าโกดังบรรจุอาหารทะเลแห้ง

• ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

จากกรณี พ.ต.ต.รัฐพล ผิวผาด พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีคนใช้อาวุธปืนยิงบนถนนสายปากน้ำปราณ- บ้านใหม่ ต.ปากน้ำปราณ เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 19/9 หมู่ 3 เปิดเป็นโกดัง”อโณทัย ลูกทะเลปลาหมึกแห้ง “บรรจุอาหารทะเลแห้งขนาดใหญ่ขายออนไลน์ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 จำนาน 5 ปลอกตกบนถนนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถยนต์ฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี สีขาว ใช้ก่อเหตุพบว่าผู้ครอบครองคือนายสิทธิศักดิ์ น้อยผลเพชร กำนัน ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำ ในวันที่ 9 มีนาคม 2565 กำนันนำรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว อาวุธปืนพก ขนาด.380 ให้ตรวจสอบ เบื้องต้นสารภาพว่าคืนเกิดเหตุขณะขับรถกลับจากงานเลี้ยง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเกิดความคึกคะนองจึงชักอาวุธปืนที่พกติดตัวออกมายิง ไม่มีเจตนายิงข่มขู่บุคคลใด ไม่คาดคิดว่าจะบานปลาย พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และสร้างความความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น

ความคืบหน้า วันที่ 21 มีนาคม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมงาน ได้เดินทางไปที่โกดังอโณทัย จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจดูความเสียหายจากร่องรอยกระสุนปืนที่ตกทะลุหลังคาโกดังโรงงาน 2 รู พร้อมรับข้อร้องเรียนจากนางอโณทัย อิ่มทั่ว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165/8 หมู่ 5 ต.ปากน้ำปราณ เจ้าของโกดัง และ เป็นหัวคะแนนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์( ปชป.ในพื้นที่ภาคอีสานคนสนิทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุดีไม่คืบหน้า และเกรงว่าไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

จากนั้นทนายษิทรา พร้อมด้วยนางอโณทัย พร้อมพนักงาน กว่า 30 คน เดินทางไปที่ สภ .ปากน้ำปราณ เพื่อติดตามความความคืบหน้าของคดีพร้อมนำนายธนกฤต แซ่ลิ้ม นายโกริน คะนึงคิด พนักงานที่ทำงานในคืนเกิดเหตุแจ้งความเพิ่มในข้อหาพยายามฆ่า และทำให้เสียทรัพย์

นายษิทรา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนานกว่า 1 เดือน แต่คดีไม่คืบหน้า และหลังจากเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยคล้อยกระสุนปืนทะลุหลังโกดัง 2 รู แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นร่องรอยเก่า แต่ข้อเท็จจริงหลังคาไม่เคยถูกยิง เนื่องจากสร้างเสร็จเพียง 3 เดือน ขณะตรวจสอบไม่ได้ไปตรวจสอบด้านบนจึงไม่น่าสรุปได้เป็นร่อยรอยเก่าหรือใหม่ จึงนำพนักงานที่ทำงานในคืนเกิดเหตุแจ้งความกับกำนันเพิ่มเติมเพราะทราบว่าไม่ได้ยิงปืนเล่นตามที่กล่าวอ้าง แต่อาจจะเป็นการข่มขู่หรือมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงหรือไม่ ทั้งนี้ก่อนเดินทางไปดูสถานที่ ได้โพสต์ลงในโซเชียล จึงมีบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก และทราบว่ากำนันน่าจะมีความสนิทสนมกับคู่แข่งทางการค้าของผู้เสียหายเนื่องจากทำธุรกิจคล้ายกัน

“ ทราบว่าในคืนเกิดเหตุก่อนที่จะลงมือยิงกำนันกับเจ้าของธุรกิจคู่แข่งกับผู้เสียหายได้ไปพูดคุยกัน ไม่ทราบว่ากำนันมีอาการมึนเมาสุราด้วยหรือไม่ขณะก่อเหตุ หากขณะยิงมีการกดปากกระบอกปืนต่ำกว่านี้อาจถูกศรีษะพนักงานที่กำลังทำงานภายในโกดัง ส่วนตัวไม่กลัวอิทธิพล แต่เป็นห่วงเจ้าของโกดังอาจไม่มีความปลอดภัย ซึ่งจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบวิถีกระสุนปืนอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการยิงเป็นการข่มขู่หรือมีเหตุอื่น “ ทนายษิทรา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนให้สอบวินัย โดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
//////////