ผวจ.ประจวบฯเร่งลดอุบัติเหตุทางถนนรับการเดินทางขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ช่วงเทศกาลสงกรานต์

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

8 เม.ย.65 ที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรสาธารณกุศล และประชาชนจิตอาสาพระราชทานเข้าร่วม เพื่อบูรณาการการทำงานในการร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดูแลความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนนระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 ภายใต้คำขวัญการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เน้นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการหลัก รองรับการเดินทางขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ผ่านพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งมีระยะทางบนเส้นทางสายหลักรวมกว่า 200 กม.

ได้แก่ 1. มาตรการด้านการบริหารจัดการ 2. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม 3. ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ 4. ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ 5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งการลดสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และการรณรงค์ลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้ามเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนน โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเป้าหมายจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุต้องไม่เกิน 47 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่เกิน 48 ราย และผู้เสียชีวิตไม่เกิน 4 ราย ควบคู่มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงมาก โดยในปีงบประมาณ 2564  มีผู้เสียชีวิต 226 ราย คิดเป็น 41.09 รายต่อแสนประชากร ซึ่งเป้าหมายระดับประเทศไม่เกิน 25.03 รายต่อแสนประชากร โดยสาเหตุหลักเกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การขับขี่รถตัดหน้ากระชั้นชิด และหลับใน ดังนั้นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลเพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และกวดขันวินัยจราจรในช่วงที่มีการเดินทางคับคั่ง นำไปสู่การลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และเสียชีวิตลงให้ได้มากที่สุด

//////////////////////////////////////