ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ
วันที่ 8 มิถุนายน นายธนะรัช เกตุอุดม สมาชิกสภาเทศบาลเมือง (ส.ท.) ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ครั้งที่ 2 เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนหรือโครงการ เอส เอ็ม แอล ชุมชนตลาดสด หลังจากที่ผ่านมาใช้งบประมาณกว่า 4 แสนบาท ได้รับการจัดสรรจากกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองฯ ในปีงบประมาณ 2555 ทำโครงการจัดซื้อเรือท่องเที่ยวตกหมึก ตกปลาลำละ 2 แสนบาท พร้อมอุปกรณ์ชูชีพมูลค่า 2 แสนบาท แต่หลังจากทำโครงการฯ พบว่าปัจจุบันไม่มีเรือบริการนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมไม่รับเรื่อง จากนั้นแจ้งให้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับสำนักงานปลัดเทศบาล
นายธนะรัช กล่าวว่า จากการสอบถามศูนย์ดำรงธรรมครั้งแรก ได้รับการชี้แจงว่า นางสุดใจ มิลินทฑัต ประธานคณะกรรมการชุมชนฯบริหารโครงการระยะแรกมีรายได้ดีเพียงพอในการบริหาร แต่จากนั้นนักท่องเที่ยวลดลงทำให้รายได้หายไป ประกอบกับเรือเสื่อมสภาพ ไม่สามารถหาเงินมาซ่อมแซมได้ และไม่มีบุคลากรดำเนินการ จึงจำหน่ายซากเรือตามสัญญาซื้อขาย ปัจจุบันมีเงินในบัญชีคงเหลือ 10446.23 บาท จากการตรวจสอบพบว่าผู้เกี่ยวข้องได้ขายเรือให้กับผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ ต.คลองวาฬ ในสภาพที่ใช้การได้ดี ไม่มีสภาพชำรุดตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่ผู้รับผิดชอบในกองสวัสดิการสังคมฯอ้างว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากชุมชนไม่ได้รายงานให้ทราบ
“ นางสุดใจเป็นภรรยาของนายพงษ์ศักดิ์ มิลินททัต อดีตประธานชุมชนตลาดสดคนเก่า ปัจจุบันได้รับเลือกตั้งซ่อมเป็น ส.ท.เขต 1 จึงสอบถามว่านางสุดใจ เป็นประธานชุมชนแทน ผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ มีบุคคลใดให้การรับรองในการทำหน้าที่ สำหรับการขายเรือ มีการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือรายงานให้กรรมการชุมชน กองสวัสดิการฯทราบก่อนหรือไม่ โดยขอให้แนบหลักฐานเรือชำรุด สำเนาสัญญาการซื้อขาย ราคาเรือที่ขายจริง มีการจัดเก็บเงินค่าเรือไว้กับบุคคลใด หลังจากมีการขายเรือ โดยขอให้ผู้เกี่ยวตรวจสอบการจัดเก็บรายได้และการเบิกจ่ายงบจากสมุดบัญชีธนาคารของชุมชน มีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ที่ผ่านมาได้ร้องสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับเรื่อง ขณะที่ ปปช. อ้างว่าประธานชุมชนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ “ นายธนะรัช กล่าว
//////////////////////////////////////////