จ่อร้องมาตรา 157 เจ้าท่าประจวบฯเกียร์ว่างปล่อยน้ำเสียจากชุมชนไหลลงอ่าวประจวบฯไม่ผ่านการบำบัด

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชยยุทธ

กรณีนายธนภพ เอี่ยมเจริญ ข้าราชการบำนาญ ชาว ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ไม่รู้ว่าจะบรรยายภาพยังไง หลังจากมีปัญหาซ้ำซาก ไม่เคยมีคำอธิบายจากหน่วยงานภาครัฐ  เนื่องจากมีน้ำจากชุมชนไหลลงชายหาดอ่าวประจวบฯ  ปลายท่อเยื้องโรงแรมหาดทอง ห่างจากร้านอาหารเพลินสมุทรไม่เกิน 100 เมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดไม่ถึง 1 กม. ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยน้ำจากชุมชนไม่ได้ไหลผ่านท่อ เพื่อไปผ่านระบบบำบัดน้ำเสียที่สร้างไว้จากงบ 400 กว่าล้านบาทหลังวัดธรรมิการามฯ ก่อนปล่อยน้ำไหลลงทะเล

วันที่  19  มิถุนายน   จ.อ.เสกสรรค์ จันทร  คณะทำงานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์    เปิดเผยว่า  ได้นำเสนอข้อมูลกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง หลังจากมาติดตามปัญหาการปล่อยน้ำเสียจากชุมชนลงทะเลว่า  การปล่อยน้ำลงทะเลลักษณะนี้เป็นปัญหามักง่าย ซ้ำซากนานกว่า 20 ปี  ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดหรือองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่มีหน้าที่ดูแลชายหาดตามกฎหมาย แก้ไขเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมบริเวณชายหาดในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแลนมาร์คสำคัญด้านการท่องเที่ยว สำหรับประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2565 ได้ยื่นเอกสารสอบถามสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคประจวบคีรีขันธ์ แต่ยังไมมีคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร 

จ.อ.เสกสรรค์   กล่าวว่า  ในวันที่ 20  มิถุนายน นี้ จะไปติดตามสอบถามที่สำนักงานเจ้าท่าฯ   หากไมมีความคืบหน้า จะมอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157   เนื่องจากพบการปล่อยน้ำเสียลงทะเลหลายมากกว่า 20  จุด ตั้งแต่หน้ากองบิน 5 ถึงสะพานสราญวิถี แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง  เนื่องจากปัญหาดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 119 มีโทษทั้งจำและปรับ โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคต้องตรวจสอบการปล่อยน้ำจากชุมชนที่มีเศษขยะ สิ่งปฏิกูลลงบนชายหาด เนื่องจากเป็นความผิดโดยซึ่งหน้า  มีการปล่อยน้ำเสียลงชายหาดตลอดเวลา

///////////////////////////////////////////

พื้นที่โฆษณา