“ตำรวจไซเบอร์บุกจับหนุ่มไฮโซจอมปลอม ก่อเหตุซ้ำ มอมยาหมอหลอกโอนเงินและถ่ายรูปแบล็คเมล์!!
วันที่ 10 เม.ย.66 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1,พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ, พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช รอง ผบก. สอท.1,พ.ต.อ.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา ผกก.2 บก.สอท.1 บช.สอท.
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธรรมปกร กัณหญาวงษ์,พ.ต.ท. เรืองกฤษณ์ ศิริมาจันทร์ ,พ.ต.ท.ลักษณ์ปกรณ์ ลูกรักษ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.1, ว่าที่ พ.ต.ต.ชัยโชติ ศรีวรขาน,พ.ต.ท. อคร กล่อมกูล,พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ,พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ พระศรี สว. กก.2 บก.สอท.1,ร.ต.อ.เลอสันต์ พรมชื่น,ร.ต.ท.ประเสริฐ นาแล รอง สว.กก.2 บก.สอท.1,ด.ต.ประเวส ศิริรวง,ด.ต.บุญแล แสงทอง ,ด.ต.บุญรัตน์ พุ่มเทียน ,จ.ส.ต.วีรวุฒิ ปัญญากัณฑ์ ,จ.ส.ต.นนทชัย ภิรมย์ขาว ,จ.ส.ต.ธนกร บู่แก้ว, ส.ต.อ.สุรัตน์ นาเจิมพลอย,ส.ต.อ.นนท์ปวิชย์ ศรีจันทวงศ์,ส.ต.อ.ศุภมร ลาบุตร ,ส.ต.อ.มาบุญครอง วีระพันธ์,ส.ต.อ.ณัฐกิตติ์ อวนศรี ผบ.หมู่ กก.2 บก.สอท.1 ร่วมกันจับกุมบุคคลตามหมายจับ คือ นายพชร นิลเจียสกุล อายุ 32 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 44/20 หมู่ที่ 8 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ข้อหา “เป็นผู้ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น และกรรโชก และรีดเอาทรัพย์”มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 1 ล้านบาท
โดยจับกุม ภายในห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ เลขที่ 695 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ ก่อนทำการจับกุม เมื่อประมาณต้นเดือน เมษายน 2563 ผู้เสียหายได้มีการติดต่อพูดคุยผ่านช่องทางการใช้ แอปพลิเคชันเฟสบุ๊ค กับนายนายพชร นิลเจียสกุล ผู้ต้องหา จนกระทั่งบุคคลทั้งสองคนมีความสนิทสนมตกลงเป็นแฟน ซึ่งในระหว่างคบหาเป็นแฟนกันผู้เสียหาย ผู้ต้องหาได้ชักชวน ให้ผู้เสียหายดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเครื่องดื่มดังกล่าวมีการผสมสารหรือยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงและไม่ได้สติ ทำให้ผู้เสียหายไม่สามรถครองสติสัมปชัญญะได้ จากนั้นผู้ต้องหาได้นำนิ้วของผู้เสียหายไปแสกนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าแอปพลิเคชันโอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ยิ่งไปกว่านั้น นายพชรฯ ผู้ต้องหา ยังเคยบังคับผู้เสียหายทำบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ขณะมีเพศสัมพันธ์ระหว่างนายพชรฯกับเสียหาย โดยข่มขู่ว่าจะปล่อยภาพนิ่งและหรือภาพเคลื่อนไหวออกสู่สาธารณะ ผู้เสียหายจึงได้มาดำเนินการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนกระทั่งขออำนาจศาลขอหมายจับกุมต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนและได้รับแจ้งข้อมูลจากสายข่าว แจ้งว่า นายพชร นิลเจียสกุล ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ในวันทึ่ (9 เม.ย.66) ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันติดตามและจับกุม ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลข้างต้น และแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน“เป็นผู้ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น และกรรโชก และรีดเอาทรัพย์” ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.1 ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้น พบของกลาง 1 ยา ALPRAZOLAM (มีฤทธิ์ในการกล่อมประสาททำให้ง่วงและไม่ได้สติ),2 เสื้อกาวน์แพทย์, 3 ชุดชั้นในสตรี,4 อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ
ลักษณะการกระทำผิดของนายนายพชร ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมการกระทำความผิดในลักษณะซ้ำซ้อน ซึ่งมีการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังได้รับการประกันตัวและออกมากระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวและจับกุมเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา และ กก.สส.บก. น.6 ผู้เสียหายเป็นหมอ มูลค่าความเสียหาย 500,000 บาท (ศาลให้ประกันตัว)
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวฝากเตือนสาวพึงระวัง ไฮโซเก๊ มอมรูดทรัพย์ครึ่งล้าน ปากแข็งอ้างสาวเปย์ จนมุมภาพลับหิ้วเหยื่อไร้สติโดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และ กก.สส.บก.น.5 ผู้เสียหายเป็นหมอ มูลค่าความเสียหาย 100,000 บาท (ศาลให้ประกันตัว)กลับมา ก่อเหตุซ้ำหลอกคบเหยื่อ แอบโอนเงินซึ่งผู้ต้องหามุ่งเป้าการกระทำความผิด โดยจะเน้นไปที่บุคคลกรทางการแพทย์ ทันตแพทย์ และพยาบาล เป็นอับดับ 1 และอันดับ 2 รองลงมาเป็น แก่อาชีพนักธุรกิจหรือธุรกิจส่วนตัว เพราะคนกลุ่มเหล่านี้จะไม่ค่อยมีเวลาที่เข้าไปสอดส่องชีวิตประจำวันของผู้ต้องหา
เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในก่อเหตุ น่าเชื่อว่ามีโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ดังกล่าว มีข้อมูลหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาให้การ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
บช.สอท.เตือนภัยประชาชน 1 อย่าหลงเชื่อรูปตัวตนในโซเชียล คนร้ายอาจแอบอ้างนำรูปของผู้อื่นมาใช้ 2 อย่ายอมให้ผู้อื่นข่มขู่แบล็คเมล์ หรือบังคับให้ทำตาม ควรแจ้งความดำเนินคดี 3 อย่าเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่น หรือนำบัตรเครดิตชื่อตนเองไปให้ผู้อื่นใช้ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 1441
//////////////////////////////
