สามีเหยื่อแอมไซยาไนด์ เปิดใจอยากให้ได้รับโทษสูงสุด ทางคดี ตร.ออกหมายจับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน **บรรณรต รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

จากกรณีคดีที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับสังคม กรณีตำรวจกองปราบฯจับกุมนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี สาวท้องวัย 4 เดือน ในคดีใช้สารไซยาไนด์วางยาฆ่าผู้อื่นอย่างต่อเนื่องถึง 14 ศพ และหนึ่งในนั้นก็มีนางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ หรือ จุ๋ม ที่เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันคืออาการหัวใจล้มเหลวที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565

ช่วงเย็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นายอี๊บ ชาวจังหวัดขอนแกน ที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) สามีนางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ (หรือจุ๋ม)1ในเหยื่อแอมซายาไนด์        เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า  ภรรยารู้จักกับแอม รังสิวุฒาภรณ์ ผ่านเพื่อนซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิต  ภรรยามีส่วนเกี่ยวข้องกับแอม ในเรื่องการร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ แอมนัดจะคืนเงินในวันที่ 16 สิงหาคม 2565   วันเกิดเหตุแอมได้ชักชวนให้ภรรยาตนออกไปพบที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองชะอำ ในวันที่ 15 สิงหาคม 2565  ขณะที่ตนพักเที่ยงและกลับมาทานข้าวที่บ้านซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำงาน ได้พบภรรยานอนอยู่ที่พื้นมีน้ำลายฝุ่นปากและเลือดไหลออกมา ตนตกใจมากจึงโทร แจ้ง 1669 ให้มารับตัวปัญญาไปที่โรงพยาบาลชะอำ  เมื่อถึงโรงพยาบาลทางโรงพยาบาลแจ้งว่าภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว   เรื่องนี้ตนไม่คิดว่าแอมจะมาวางยาภรรยาของตนจนเสียชีวิต กับเพียงแค่เงินไม่ถึงแสนบาท   จึงอยากให้แอมได้รับโทษสูงสุดกับความผิดที่ได้ทำลงไป    ตนไม่ทราบว่าคดีนี้ทำเป็นขบวนการรึไหม รู้แต่ว่าแอมเดินทางมาจากราชบุรีเพื่อมาฆ่าภรรยาตนโดยตรงในวันนั้น

ทางด้านคดีวันนี้ทางศาลได้ออกหมายจับคนใกล้ชิดเป็นตำรวจที่เอี่ยวช่วยเหลือแอมในคดีของภรรยาตนแล้ว  ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไวก่อน   สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน  เพราะเงินไม่ถึงแสนบาท    หากแอมจะโกงภรรยาของตน   ตนก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสามีแอมเป็นนายตำรวจใหญ่   แต่ทำไม่ถึงต้องมาฆ่าแกงกันด้วยตนก็เหมือนกับผู้สูญเสียหลายๆราย   จึงอยากให้แอมได้รับโทษสูงสุด  แต่ยังไม่สาสมกับสิ่งที่ทำกับครอบครัวตน       วันนี้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเพชรบุรี ได้ลงพื้นที่ไปพบทายาทของผู้เสียชีวิต  เพื่อดำเนินการแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544   เบื้องต้นหากผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด  มีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา  ค่าตอบแทนถึงแก่ความตาย  ค่าจัดการศพ  ค่าอุปการะเลี้ยงดู ร่วม 110,000 บาท   ปัจจุบันตนอาศัยอยู่กับลูกสาว2คนที่กำพร้าแม่ ลูกๆทราบเรื่องทุกอย่าง คนเราเคยอยู่กันพร้อมหน้าทุกวันพอไม่มีแม่เหมือนกับอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิต ลูกร้องคิดถึงแม่

 

///////////////////

บรรณรต รายงาน