จ.นครนายก : ททท.นำผู้ประกอบการและสื่อฯชมวิสาหกิจชุมชน เพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในชุมชนจังหวัดสมุทรสงคราม

แชร์ข่าวนี้

จ.นครนายก : ททท.นำผู้ประกอบการและสื่อฯชมวิสาหกิจชุมชน เพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในชุมชนจังหวัดสมุทรสงคราม 17 มิถุนายน 2566 บรรยากาศยามเช้า ท้องฟ้าปลอดโปร่ง คณะศึกษาดูงานในโครงการ “ชุมชน ศรัทธา สายน้ำสามเวลา” ในวันที่3 ของโครงการฯ ต่างทำภารกิจส่วนตัวและรับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก ก่อนออกเดินทางไปชมวิสาหกิจชุมชนสวนมะนาวโห่ของลุงศิริ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ และท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ แบบเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทร สงคราม ที่มีการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูป จากผลมะม่วงหาวมะนาวโห่ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวภายในสวนแห่งนี้ได้มีการจำหน่ายผลสด ต้นพันธุ์มะม่วงหาวมะนาวโห่ เพื่อทำการเกษตรและได้รับ การรับรองมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติการทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช รหัสรับรอง กษ 30-9001 -36431803504 จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่หลากหลายกว่า 30 รายการ ที่ได้นำมาดัดแปลงและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของประชาชน และนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เข้าเยี่ยมชมอย่างทั่วถึง จากนั้น ทางคณะได้เดินทางไปวัดบางกุ้งเพื่อชมโบสถ์ปรกโพธิ์ ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ 4 ชนิด ทั้งหลัง ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี หรือหลวงพ่อดำ ซึ่งในอดีตสถานที่แห่งนี้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกทัพมาตั้งฐานที่มั่นเพื่อรับศึกพม่า ณ ค่ายแห่งนี้ จากนั้นได้เดินทางไปยังร้านครัวครูหอม เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และเดินทางต่อไปยังวัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดโบราณ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอกที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายซึ่งตรงกับรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สิ่งที่สำคัญในวัดแห่งนี้ก็คือสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาส ที่ใครไปเยือนก็ต้องไปสักการะ และชมความงามของโบสถ์จตุรมุขหินอ่อนที่มีขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ที่พื้นโบสถ์จะปูด้วยหยกสีเขียวจากเมืองกาจีประเทศปากีสถาน ภายในประดิษฐานพระประธานบนฐานสูงบานหน้าต่างด้านนอกจะลงรักฝังมุกเป็นภาพตราพระราช ลัญจกรตั้งแต่รัชกาลที่ 1 มาจนถึงปัจจุบัน และท้าวเวสสุวรรณ ในภาษาพรามณ์เรียกท้าวกุเวรในพระพุทธศาสนา เรียกท้าวโพสพ เป็นเจ้าแห่งอสูรภูตผีปีศาจที่ทรงอิทธิฤทธิ์และมีอานุภาพมาก ที่ได้รับแรงศรัทธาจากผู้คนหลากหลายที่เดินทางมากราบไหว้
สักการะขอโชคลาภกันทุกวัน จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้า นภาลัย หรืออุทยาน ร. 2 เพื่อชมพิพิธภัณฑ์ บริเวณอาคารเรือนไทยหมู่ 5 หลัง ซึ่งสร้างในรูปแบบของเรือนคหบดี ชานเรือนจำลองจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง ปัจจุบันจัดแสดงศิลปะวัตถุ รวมทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยรวบรวมใหม่ทั้งหมดรวมพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด อาคารทรงไทยหมู่ 9 หลัง การแต่งกายชุดไทยกับบรรยากาศย้อนยุคแบบไทย จากนั้นได้ เดินชมตลาดยามเย็นอัมพวา เพื่อเลือกชมเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่หลากหลายรวมถึงการแสดงของเหล่าศิลปินต่างๆ และเยาวชน ให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุข สนุกสนานกับบรรยากาศในยามเย็น จากนั้นทางคณะได้ไปรับประทานอาหารเย็น กันที่ “อัมพวาน่านอน “ซึ่งอยู่ใกล้ๆตลาดน้ำอัมพวาก่อนที่จะเดินทางนั่งเรือชมหิ่งห้อย และทัศนียภาพยามค่ำคืนตามวิถีชุมชนบ้านอัมพวา และพักผ่อน ณ ทรีธารากันตามอัธยาศัย นพพร ชูทรัพย์ / รายงาน