สระบุรี-มาดามส้ม จูงมือแม่ร้องสื่อ ลูกสาวถูกรถชนตาย 4 เดือนคดีไม่คืบ **ชาญวิทย์ คำนวณวุฒิ รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หรือ มาดามส้ม ประธานมูลนิธิดาวเหนือได้รับการร้องเรียนจากนางบังอร เจือนาค อายุ 46 ปี ว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา นางสาวสุดารัตน์ พิมพ์ดี (หรือพริ้ง) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไปบนถนนระพีพัฒน์ฝั่งขวา ม.11 ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี ได้ถูกรถบรรทุกพ่วง(รถเทลเลอร์) เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯนำส่งรพ.หนองแค มีนายสุภราช กล้าจริง อายุ 46 ปี เป็นคนขับรถบรรทุกพ่วง จากนั้นน.ส.สุดารัตน์ ได้เสียชีวิต ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมา 4 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณี หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างได จึงได้นำเรื่องมาร้องสื่อ และมาดามส้ม เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดี เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หรือ มาดามส้ม ประธานมูลนิธิดาวเหนือ พร้อมด้วยทีมงาน ทนายความ และเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.สระบุรี ได้พานางบังอร เจือนาค เพื่อขอเข้าพบ ร.ต.อ.สถิตพงษ์ ศรีอ่อน ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อดูความคืบหน้าองคดี แต่ ร.ต.อ.สถิตพงษ์ ไม่อยู่ เนื่องจากติดธุระต่างจังหวัด จึงให้ ร.ต.อ.ณิกทัศน์ ทาเคนะ พนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เป็นผู้รับเรื่องไว้

ทางด้านนางบังอร เจือนาค (แม่ผู้เสียชีวิต) เล่าว่าวันนี้ได้มาติดตามเรื่องคดีของ นางสาวสุดารัตน์ ซึ่งเป็นลูกสาว เนื่องจากว่า 4 เดือนที่ผ่านมาคดีความไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าทางเจ้าของรถไม่ยินยอมจ่ายค่าเสียหาย โดยอ้างว่า น.ส.สุดารัตน์ เป็นฝ่ายผิด และบอกว่าทางเขามีพยาน และกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเราไม่มีหลักฐานไดๆ ซึ่งตอนแรกตนเองก็คิดว่าลูกสาวที่ถูกรถชน คิดว่าคงจะไม่สาหัส หรือเสียชีวิต แต่เมื่อมาถึง รพ.ลูกสาวไม่รับรู้อะไรแล้ว โดยทางร้อยเวรแจ้งมาว่าลูกสาวของตนเองผิด ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 เดือนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตนมาพบแค่เพียงครั้งเดียว แต่ไม่ได้สอบปากคำไดๆทั้งสิ้น

ด้านดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หรือ มาดามส้ม ประธานมูลนิธิดาวเหนือ เล่าว่า วันนี้ได้พาแม่ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถชน เป็นรถจักรยานยนต์ ชนกับรถบรรทุกพ่วง วันนี้ได้มาติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า หลังจากผู้ตายได้เสียชีวิตมาแล้ว 4 เดือน เรื่องยังเงียบอยู่ ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้อ่านสำนวนดูแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเจ้าของรถบรรทุก ซึ่งเป็นคู่กรณี ปรากฏว่าทางคู่กรณีได้ปฏิเสธความผิดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งทางมูลนิธิมองดูว่า ผู้เสียชีวิตไม่ควรที่จะตายฟรี ซึ่งความยุติธรรมต้องมีในโลกนี้ จึงได้พาแม่ผู้เสียหาย ติดตามความคืบหน้าที่ สภ.หนองแค และแจ้งทางเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดเข้ามาดูแล ให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้เสียหาย ส่วนในด้านคู่กรณี ทางมูลนิธิฯอยากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากกรณี แบบนี้ถือว่าเป็นการเสียชีวิต ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งคนตายทั้งคนอยู่ๆจะขับรถมาให้ชนเป็นไปไม่ได้ จึงได้ติดตาความคืบหน้า และหาคนที่มารับผิดชอบร่วม

ทางด้านนายยุทธศักดิ์ บุญมา เจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.สระบุรี เผยว่า ในส่วนองสำนักงานยุติธรรม จ.สระบุรี ได้เข้ามาดูแลความช่วยเหลือเกี่ยวกับเงินเยียวยา ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา แต่ต้องดูความคิดเห็นของพนักงานสอบสวนก่อน ว่าพนักงานสอบสวนลงความเห็นว่าทางผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ถ้าไม่มีทางสำนักงาน ก็จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ เยียวยากับทางญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันนี้ก็จะมารับเรื่อง ซึ่งจะต้องดูว่าทางญาติผู้เสียชีวิตว่ามีโอกาสจะได้รับความช่วยเหลือจาก พรบ. และประกัน จากรถคู่กรณีด้วย

//////////////////////////////////////////////

ชาญวิทย์ คำนวณวุฒิ รายงาน