วันที่ 18 กรกฎาคม นายสมพร ปานแดง อายุ 65 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.) หมู่ 10 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เร็วๆนี้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมีแผนจะทำการถ่ายโอนภารกิจให้ อบต. จากการใช้งบประมาณ 144.7 ล้านบาท โดยสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯตั้งแต่ปี 2560 หากฝ่ายบริหารเสนอญัตติให้สภา อบต.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ขอยืนยันว่าส่วนตัวจะคัดค้านโครงการนี้ เนื่องจากไม่เชื่อว่าการใช้งบประมาณจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริง และก่อนพิจารณาจะขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชี้แจงหลักการและเหตุผล
นายสมพร กล่าวว่า เดิมโครงการนี้มีการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ โดยรับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ ด้านหลังโรงเรียนกิตติคุณ นำน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งตะวันตกไปออกทะเล ผ่านลำห้วยร่องประดู่ แต่ทราบว่าที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาเนื่องจากการรถไฟไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ เพื่อก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้โครงการหยุดชะงัก ซึ่งกรมโยธาฯต้องตอบให้ชัดเจนว่าโครงการนี้หลังจากมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาสำรวจออกแบบและมีการอนุมัติงบทำโครงการ เหตุใดระหว่างที่ผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง จึงถูกการรถไฟฯทักท้วงไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ 
“ จากนั้นกรมโยธาฯได้โยกงบที่เหลือไม่กี่ล้านบาทไปรับฟังความเห็นจากชาวบ้าน โดยวางท่อใต้ถนนเพื่อรับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ผันไปทางทิศเหนือหลังสถานีตำรวจทางหลวง ซึ่งด้านหน้าโครงการที่ว่างท่อเป็นที่ดินที่มีโฉนดของเอกชน หากในอนาคตเจ้าของที่ดินมีการใช้ประโยชน์จะไม่มีทางน้ำไหลผ่าน นอกจากนั้นพบว่าตั้งแต่สะพานข้ามถนนเพชรเกษม หน้าห้างโกลบอลเฮาท์มีการออกโฉนดทับลำห้วยทั้งหมดทั้งในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯและเขตรอยต่อ อบต.เกาะหลัก และเดิมลำห้วยร่องทศกัณฑ์ในแผนที่ทหารจะลงไปทางทิศใต้ แต่กรมโยธาวางแผนผันน้ำมาทางทิศเหนือ เพื่อวางท่อผ่านพื้นที่ป่าช้าเก่า ผ่านที่ดินโฉนดของเอกชนบ้านดอนเหียงเพื่อผันน้ำผ่านทางลอดรถไฟลงทะเล ” นายสมพร กล่าว
นายกฤษดา ตันธีรธรรม อายุ 73 ปี อดีตนายอำเภอกันตัง จ.ตรัง ชาว หมู่ 10 ต.เกาะหลัก กล่าวว่า ได้มอบข้อมูลเอกสารหลักฐานที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ 24 ปีก่อน ขณะที่ทำหน้าที่ปลัดอำเภอเมืองประจวบฯ ให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบปัญหาการบุกรุกลำห้วยสาธารณะร่องทศกัณฑ์ในพื้นที่ อบต .เกาะหลัก รอยต่อเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากจะมีผลกระทบ จากการออกเอกสารสิทธิ์ทับลำห้วย
นายกฤษดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงการออกโฉนดทับลำหลายตั้งแต่ปี 2542 มีผลสรุปชัดเจนจากแผนที่ทหาร 1: 50000 มีการกำหนดเส้นทางของลำห้วยที่มีการออกโฉนดตั้งแต่ถนนเพชรเกษม ถึง ด้านข้างโรงเรียนบ้านค่าย ถนนประจวบคีรีขันธ์ พบว่าบางจุดมีการออกโฉนดกลางลำห้วย เมื่อตรวจสอบรายงานการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน (กบร.จังหวัด) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ที่ประชุมมีมติให้ส่งปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์รุกลำห้วยไปอ่านแปลภาพทางอากาศที่ กบร.กลาง ขณะนี้ผ่านไป 7 ปี ยังไม่ทราบว่ามีผลการแปลภาพถ่ายจริงหรือไม่ ได้สอบถามไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนานกว่า 5 เดือน ยังไม่มีคำตอบ
//////////////////////////////////////////
สุรยุทธ ยงชัยยุทธ รายงาน
