เพชรบุรี  ชาวบ้านแก่งกระจานวอนรัฐบาลชุดใหม่ทุ่มงบ 100-200 ร้อยล้านแก้ไขปัญหาช้างป่า หลังพบแนวรั่วป้องกันช้างชำรุดและเตี้ยเกินไป** บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ รายางาน 

แชร์ข่าวนี้

 

เพชรบุรี  ชาวบ้านแก่งกระจานวอนรัฐบาลชุดใหม่ทุ่มงบ 100-200 ร้อยล้านแก้ไขปัญหาช้างป่า  หลังพบแนวรั่วป้องกันช้างชำรุดและเตี้ยเกินไป 

จากกรณีช้างป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี  โขลงช้างป่าได้ปีนข้ามแนวรั้วป้องกันช้างป่าจุดที่ชำรุดออกมาหากิน  ริมถนนสายพุไทร – ไทรเอนเส้นทางท่องเที่ยว และพบแนวรั่วป้องกันช้างป่าหลายจุด ชำรุด ทรุดโทรม บางจุดมีความสูงเพียง2เมตร ทำให้ป้องกันช้างป่าโตเต็มวัยปีนข้ามรั่วไม่ได้  ช้างสามารถปีนรั่วข้ามออกมาหากินพืชสวนของชาวบ้าน จนสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในพื้นที่มาอย่างยาวนาน

วันนี้ 1ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ  นายแดน เจ้าของร้านจำหน่ายพันธุ์ทุเรียนป่าละอู่ในพื้นที่ ต.บ้านป่าเด็ง  อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี   เปิดเผยว่า   สำหรับช้างป่าที่ออกมาหากินในช่วงหน้าผลไม้ และช่วงทุเรียนป่าเด็ง ป่าละอู ออกผลผลิต  จะเจอเดินอยู่ริมถนนประจำ บริเวณหน้าด่านตรวจ  หน้าตลาดนัดและเขตชุมชน   อีกทั้งยังชอมยืนดักรถยนต์บรรทุกผลไม้เพื่อหาของกินเป็นประจำ   หากชาวบ้านเจอช้างป่าเดินอยู่บนถนนหรือหากินอยู่ในสวนผลไม้ของชาวบ้านเบื้องต้นก็ต้องช่วยตัวเองก่อนโดยการจุดพลุ หรือประทัดยักษ์ไล่ให้ออกไป  อีกทั้งยังเคยเข้ามาภายในร้านเหยียบต้นไม้เสียหาย       ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างตนเข้าใจว่า จำนวนเจ้าหน้าที่น้อยเกินไป ทำให้กำลังที่จะพลักดันช้างกลับเข้าป่าไม่เพียงพอ  บางครั้งไปไล่อยู่ทางโซนใต้  ช้างอีกตัวก็มาทางโซนเหนือ  จึงวิ่งมาผลักดันเข้าป่าไม่ทัน  ทำให้ชาวบ้านเดือด น่าจะมีหน่วยงานเข้ามาสนับสนุน  กำลังพลให้เจ้าหน้าที่ และงบประมาณเข้ามาทำแนวรั้วกันช้างให้ชัดเจนมากกว่านี้    ตนเข้าใจว่าจะต้องอยู่กับช้างให้ได้แต่เวลาช้างออกมามันน่ากลัว

นางส้ม เจ้าของร้านขายของชำในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน กล่าวว่า  ช้างป่าไม่ได้ออกมาทุกวัน ที่ร้านเปิดขายของชำ  ช้างจะไม่ค่อยเข้ามาเพราะว่าติดสัญญาณเสียงเตือนภัยป้องกันรอบบ้าน  หากมีช้างออกมาเดินตามถนน ก็จะส่งไลน์กลุ่มไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ ว่าช้างอยู่ตรงไหน เพื่อให้มาผลักดันกลับเข้าป่า  โดยเจ้าหน้าที่ออกผลักดันช้างกันทั้งคืน  น่าสงสารรถยนต์ที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ก็เก่า หากฝนตกก็ต้องออกไปผลักดันช้าง และยังมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน

ขณะที่ด้าน  นายอรรถพล แจ้งเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าแดง อ.แก่งกระจาน  เปิดเผยว่า  ในพื้นที่ยังมีปัญหาช้างป่าอยู่และยังมีผลกระทบต่อชาวบ้าน  แต่ยังมี จนท.อุทยาน ทหาร เครือข่ายภาคประชาชน และทาง อบต.ป่าเด็ง ที่ยังช่วยดูแลชาวบ้าน  ทางอบต.ช่วยค่าน้ำมันเดือนละ 600 ลิตรให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการออกปฏิบัติงานผลักดันช้างทุกๆคืน  ทำให้ดีขึ้นกว่าเก่าเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้ผลเต็มที่  สำหรับแนวรั้วช้างทางอดีตนายก อบต.คนเก่าก็สร้างไว้   โดยการทอดผ้าป่าและ ของบจากจังหวัด  แต่ได้แค่พอประทัง ยังไม่ได้ผลเต็มร้อย  เนื่องจากรั้วช้างชุดแรกที่ก่อสร้างไว้อยู่ในการทดลอง  อยากให้แนวรั้วช้างอยู่ในเขตอุทยาน  ที่ผ่านมามีจุดรอยรั่วของแนวรั้วทางอบต.ก็เติมเต็มให้แต่ปัจจุบันก็ยังรั่วเพิ่มอีก  จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือทางอุทยานหากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีเม็ดเงินตรงไหนก็อยากให้เข้ามาช่วยเหลือ

เบื้องต้นได้ช่วยด้านการเยียวยา ในเรื่องของพืชส่วนทางการเกษตร  สวนทุเรียน ของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่า   โครงสร้างบ้านพักอาศัยที่ถูกช้างพังทำลาย  ทาง อบต.ช่วยเหลือมาตลอด  แต่การแก้ปัญหาช้างป่าทุกภาคส่วนต้องลงมาและต้องโยนเม็ดเงินมาโดยตรง  ที่ผ่านมาแก้ปัญหายากเพราะเม็ดเงินลงมาน้อย   จึงอยากได้เม็ดเงิน100- 200 ล้านเพื่อมาแก้ปัญหาช้างป่ากับชาวบ้าน  แต่หากเม็ดเงินลงมาปีละ1-2ล้าน ก็แก้ได้แค่บางจุด   แนวรั้วเก่าที่ชาวบ้านสร้างไว้เพื่อทดลองต้องแก้ไขตลอดแนว  เนื่องจากมีความสูงเพียง2เมตร เหล็กเล็กไป  ไม่สามารถป้องกันช้างโตเต็มวัยได้

ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่หากอยากให้ ในพื้นที่ บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบ้านป่าเด้ง ต.ป่าแดง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยังเป็นแหล่งผลิตทุเรียนขึ้นชื่อของประเทศ  และเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด   เป็นแหล่งอนุรักษ์ช้างป่าของไทย  และไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับช้างป่า   อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เห็นชอบอนุมัติเม็ดเงิน 100-200 ล้านลงมาแก้ปัญหา  พร้อมส่งผู้ที่เกี่ยวข้องลงมาสำรวจแนวรั่วโดยตรง  ไม่ใช่ฟังจากรายงานว่าช้างอยู่ร่วมกับคนได้   ที่ผ่านมาเสียชีวิตไปกี่ราย อบต.เยียวยามาตั่งกี่สิบครั้ง   ต้องมีเม็ดเงินลงในพื้นที่อยากจริงจัง  โดยผ่าน อุทยานฯ และทางอบต.ก็จะเป็นผู้ช่วยเหลือและสนับสนุน   หากปล่อยนิ่งเฉยเรื่องนี้ก็จะแก้ปัญหายากขึ้นทุกวัน เพราะจำนวนช้างป่าในพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปี  จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่ากับชุมชน

** บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ รายางาน