สระบุรี  เด็กปั๊มร้องสื่อ ถูกมิจฉาชีพออกอุบายซื้อของแล้วทำให้งง สับสนเพื่อเอาเงินทอน เกิดเหตุหลายพื้นที่ในสระบุรี** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี  เด็กปั๊มร้องสื่อ ถูกมิจฉาชีพออกอุบายซื้อของแล้วทำให้งง สับสนเพื่อเอาเงินทอน เกิดเหตุหลายพื้นที่ในสระบุรี

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเด็กปั๊มหลายแห่ง ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะเส้นทางถนนพหลโยธินขาเข้าเมืองสระบุรี และเส้นบายพาสพระพุทธฉาย และถนนมิตรภาพ ว่ามีมิจฉาชีพเป็นชาย คล้ายชาวต่างชาติ (แขก) สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ผมหยิกหยักโศก อายุประมาณ 30 ปี โดยพฤติกรรมการก่อเหตุ คนร้ายจะเดินเข้ามาภายในปั๊ม และทำเป็นพูดไทยไม่ได้ โดยใช้ภาษามือแทน เข้ามาซื้อของภายในปั๊ม (น้ำมันเครื่อง น้ำกลั่น) แล้วจ่ายเงินเป็นแบงค์ พันบาท แล้วต่อราคาโดยใช้ภาษามือแทน

แต่เมื่อเด็กปั๊มบอกไม่ได้ก็จะยกเลิกการซื้อของ และขอเงินคืน และเมื่อเด็กปั๊มคืนเงินให้ ก็ทำทีใช้ภาษามือว่าเอาสินค้าก็ได้  โดยเดี๋ยวเอา เดี๋ยวยกเลิก ทำให้พนักงานปั๊มเกิดความสับสน โดยมีการยื่นเงินจ่ายค่าของแล้วก็ยกเลิก เอาเงินคืนทีหลัง ทำแบบนี้กลับไป กลับมาจนทำให้ พนักงานปั๊มเกิดความสับสนว่าคืนเงินไปหรือยัง สุดท้ายต้องคืนเงินให้อีกครั้ง

ซึ่งคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุช่วงที่มีรถเข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันกันมากๆ เพราะว่าจะทำให้ พนักงานปั๊มมัวยุ่งกับการออกบิลบ้าง หรือต้องทอนเงินให้ลูกค้าจึงเกิดความสับสน ว่าได้คืนเงินไปหรือยัง สุดท้ายก็ถูกมิจฉาชีพหลอก โดยคนร้ายได้ก่อเหตุแล้วกว่า 10 ปั๊มน้ำมัน ในหลายพื้นที่จังหวัดสระบุรี หลังจากก่อเหตุเสร็จก็จะเดินออกจากปั๊ม และคาดว่าจะมีคนร้ายอีกคนขี่จักรยานยนต์รอรับอยู่นอกปั๊ม

ทางด้านนายรัฐบาล พลับจุ้ย ผจก.ปั๊มบางจากหนองนาก เล่าว่า คนร้ายมีลักษณะคล้ายกับคนต่างชาติ คล้ายกับแขก แต่ไม่ใช่แขกดำ โดยทำทีมาซื้อน้ำกลั่น จากนั้นก็ทำเป็นต่อราคา คือจะไม่เอาราคานี้ แต่จะขอราคาพิเศษโดยมีการจ่ายเงินแบงค์พันกันไป และคืนเงินมา จนเกิดความงุนงง และเมื่อต่อรองไม่ได้ก็จะไม่เอาของ ทางพนักงานก็คืนเงินไปให้แล้ว ก็กลับมาอีกโดยบอกว่าจะเอาของ

จากนั้นทำท่ายื่นเงินให้แต่ไม่ได้ยื่นให้ กลับเอาเงินใส่กระเป๋ากางเกงตนเอง จากนั้นก็ใช้กลอุบายพูดให้ทางพนักงานปั๊มงุนงง และบอกว่าให้เงินไปแล้วนะ เพื่อที่จะเอาเงินคืนอีกรอบ และเมื่อพนักงานงง ก็คืนเงินไปให้อีกรอบ คือเงินของตนเองรอบแรกไป 1 รอบ และเงินที่พนักงานคืนไปอีก 1 รอบแต่น้ำกลั่นไม่ได้เอาไปเนื่องจากคุยกันไม่รู้เรื่อง ตกลงราคากันไม่ได้  ซึ่งตนเองก็จะไปแจ้งความที่ สภ.หนองแค (สาขาย่อยหินกอง) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “แล้วเราเอาไปให้เขาเองทำไมล่ะ ทำไมไม่ตั้งสติ” โดยไม่รับแจ้งความ

ทางด้านนายเอกรัตน์ เกิดไธสง พนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท. เล่าว่าคนร้ายมีลักษณะคล้ายกับคนแขก เข้ามาถามซื้อน้ำมันเครื่อง 1 ขวดจากนั้นก็เข้ามาตรงประตูของตู้รับเงิน ซึ่งยกโทรศัพท์ให้ตนดูว่าราคา 50 บาทใช่ไหม ตนเองได้ตอบไปว่า 70 บาท

ซึ่งตอนแรกคนร้ายได้ยื่นเงินแบงค์ พัน บาทให้ก่อนตนองก็ทอนเงินไปให้ ซึ่งเมื่อคนร้ายรู้ว่าราคา 70 บาทก็จะไม่เอาของ ตนจึงได้เอาเงินแบงค์ พันบาทคืนให้ จากนั้นคนร้ายก็กลับมาบอกว่าเอา 2 ขวด จากนั้นคนร้ายก็นำเงินซุกไว้ใต้โทรศัพท์ ตนเองก็ไม่ได้ดูเนื่องจากว่ามีรถเข้ามาใช้บริการเยอะทำให้เกิดความสับสนตนเองก็ได้ทอนเงินไปให้คนร้าย 860 บาท

โดยที่ไม่ได้แบงค์ พันบาทจากคนร้าย ทำให้ตนเองต้องเสียทั้งน้ำมันเครื่อง 2 ขวด และเงินทอนอีก 860 บาทไป ซึ่งตนเองจะต้องมารับผิดชอบเงินที่สูญเสียไป 1.000 บาท จึงอยากฝากบอกคนร้ายให้เอาเงินมาคืนตนเองด้วยจึงอยากบอกเพื่อนๆพนักงานปั๊มว่า ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ มีสติ ดูดีดี ช่วยเอาเงินมาคืนให้ตนเองด้วย ตนเองจะต้องถูกหักเงิน และที่บ้านก็มีค่าใช้จ่ายเยอะ

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน