ชุดปราบปราม สน.บางซื่อ รวบ 2 ผู้ต้องหาพกพาอาวุธปืนเถื่อนและพกพาอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาตคาขนส่งหมอชิต

แชร์ข่าวนี้

 

ชุดปราบปราม สน.บางซื่อ รวบ 2 ผู้ต้องหาพกพาอาวุธปืนเถื่อนและพกพาอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาตคาขนส่งหมอชิต

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน. บางซื่อ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ,พ.ต.ท.วุฒิเดช พ่อค้า สวป.สน.บางซื่อ,ร.ต.อ.สมพงษ์ โบสถ์หอม รอง.สวป.สน.บางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน

1.มีอาวุธปืน(ปืนไทยประดิษฐ์)และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.พกพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

พร้อมด้วยของกลาง

1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก

2.กระสุนปืนขนาด.32 จำนวน 9 นัด

พร้อมผู้ต้องหา ทราบชื่อ นายอาทิตย์ ลิ้มทิพรสเลิศ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 98 หมู่ที่ 1 ต.ชมสะอาด อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด

วันเวลาสถานที่เกิดเหตุ 7 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 09.50 น.บริเวณภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

ตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจพื้นที่ บริเวณภายในขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบนายอาทิตย์ ลิ้มทิพรสเลิศ (ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง) ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวท่าทางมีพิรุธและมีเหตุอันควรต้องสงสัยเหมือนกับมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบและตรวจค้น จึงได้พาตัวนายอาทิตย์ฯ เข้าตรวจเครื่องสแกนโลหะ พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จึงทำการตรวจค้นก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแก่นายอาทิตย์ฯผลการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืน ขนาด.32 มม.จำนวน 9 นัด พร้อมซองปืนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังสีดำที่นายอาทิตย์ฯ สะพายอยู่ขณะตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้เป็นของกลางสอบถามนายอาทิตย์ฯ ยอมรับว่าอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนของกลางดังกล่าวได้มาจากนายอ็อฟย่านสายไหมซอย 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบ จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาในเวลา 09.55 น.ชุดปราบปรามสน.บางซื่อ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ได้มอบหมายให้ จนท.ตร.ชุดจับกุม นำโดยพ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป. สน.บางซื่อ, พ.ต.ท.วุฒิเดช พ่อค้า สวป. สน.บางซื่อ, ร.ต.อ.สมพงษ์ โบสถ์หอม รอง.สวป.สน. บางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน

1.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้พกพาฯ (ป.12)

2.พกพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

พร้อมด้วยของกลาง

1.อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.เลขทะเบียนปืน ปส 01/3900920

2.กระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน  13 นัด

พร้อมผู้ต้องหา นายอัชนา มาคร อายุ 59 ปี ที่อยู่ 73 หมู่ที่ 3 ต.ศรีคีรีมาศ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย

วันเวลาสถานที่เกิดเหตุ 7 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 09.55 น.บริเวณภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

โดยตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจพื้นที่ บริเวณภายในขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบนายอัชนา มาคร(ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง) ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวท่าทางมีพิรุธและมีเหตุอันควรต้องสงสัยเหมือนกับมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบและตรวจค้น จึงได้พาตัวนายอัชนาฯ เข้าตรวจเครื่องสแกนโลหะ พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายอาวุธปืน จึงทำการตรวจค้นก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแก่นายอัชนาฯ ผลการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 13 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังสีดำที่นายอัชนาฯ สะพายอยู่ขณะตรวจค้นโดยแยกชิ้นส่วนปืนออกจากกันเป็น4 ส่วนได้แก่ลำกล้อง ลำเลื่อน เครื่องลั่นไก และแม็กกาซีน  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้เป็นของกลางสอบถามนายอัชนาฯ ยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางดังกล่าวเป็นของตนและได้แสดงใบ ป.4 แต่ไม่มีใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนฯ (ป.12) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบ  จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

** สมบัติ ผลกิจ รายงาน