นนทบุรี ลุงวัย 57 ปี ถูกแท็กซี่ทำร้ายตาปูดบวม เดินทางเข้าแจ้งความพร้อมลูกสาว ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด** ภาพ/ข่าว ทีมข่าวนนทบุรี รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

นนทบุรี ลุงวัย 57 ปี ถูกแท็กซี่ทำร้ายตาปูดบวม เดินทางเข้าแจ้งความพร้อมลูกสาว ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณแพท อายุ 29 ปี โดยขอให้เป็นสื่อกลางช่วยเหลือ หลังจากบิดาคือนายธนกร ตั้งใจ อายุ 57 ปี ถูกคนขับแท็กซี่กับเพื่อน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสลบอยู่ริมถนน แล้วยังลากร่างคุณพ่อขึ้นมาหวังจะกระทืบซ้ำ โชคดีที่มีชาวบ้านแถวนั้นเข้ามาช่วยห้ามปราม ก่อนที่ชายคนขับรถแท็กซี่รูปร่างอ้วน ตัวใหญ่ กับเพื่อนผู้ชายรูปร่างผอมสูง จะขึ้นรถหลบหนีไปหลังก่อเหตุ

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน ขณะชายรูปร่างอ้วน ศีรษะล้าน ใส่เสื้อสีชมพู สวมกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมกับเพื่อนชาย ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีเทา สวมกางเกงสแล็คสีดำ ช่วยกันรุมทำร้ายนายธนกรจนสลบคาตีน นอนหมดสติอยู่ริมฟุตบาท ก่อนที่ชายรูปร่างผอมสูงจะดึงขาพ่อตนเองแล้วลากขึ้นมาบนฟุตบาท เหมือนกับหมูกับหมา ไม่มีความปราณี ส่วนชายรูปร่างอ้วนก็ตรงเข้ามาจะกระทืบและทำร้ายซ้ำ โชคดีมีชาวบ้าน 3-4 คน ที่อยู่ใกล้เคียงและเห็นเหตุการณ์เข้ามาห้ามปราม ก่อนที่ชายคนอ้วนดังกล่าวจะตะโกนเรียกเพื่อนชายให้ขึ้นรถแล้วขับหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ส.ค. 67 ที่สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายธนกร ตั้งใจ อายุ 57 ปี ผู้บาดเจ็บ พร้อมด้วยคุณแพท อายุ 29 ปี ลูกสาว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี

โดยวันนี้นายธนกร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนได้ เดินทางมาพร้อมลูกสาวเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณี โดยวันที่เกิดเหตุทางตนได้เข้าไปสอบถามเพื่อจะขอโทษคู่กรณีที่ตนเสียงดัง แต่ทางคู่กรณีเข้าใจผิด ตนยอมรับว่าวันนั้นได้มีการดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะพูดจาเสียงดังไปหน่อย ส่วนทางคู่กรณีได้มีการดื่มแอลกอฮอล์เหมือนกัน ถ้าเจอคู่กรณีตนอยากจะถามว่าทำไมต้องทำกับตนรุนแรงขนาดนี้ วันนี้คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ด้าน น.ส.แพท ลูกสาวผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ได้ลางานพาพ่อเดินทางเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด ตนเห็นคลิปวงจรปิดแล้วรู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขนาดพ่อตนล้มไปแล้วยังลากมาเพื่อที่จะทำร้ายซ้ำ ไม่ควรมีการลงไม้ลงมือแต่แรก ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามไม่ควรทำร้ายกันขนาดนี้ หากห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ควรที่จะแยกย้ายกันไป ตนมีพ่อคนเดียวไม่มีใครสามารถมาดูแลแทนกันได้ ต้นขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

** ภาพ/ข่าว ทีมข่าวนนทบุรี รายงาน