ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ
วันที่ 2 เมษายน จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่ามีการปล่อยน้ำเสียมีกลิ่นเหม็นเน่าลงชายหาดในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยไม่มีการบำบัด ซึ่งจะส่งผลกระทบกับระบบนิเวศชายฝั่ง มีผลกระทบการลงเล่นน้ำทะเลหรือการเล่นกีฬาทางน้ำ หน้าอ่าวประจวบคีรีขันธ์ มีผลกระทบกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว จากการตรวจสอบพบว่าการปล่อยน้ำเสียจากชุมชนลงบริเวณชายหาดโดยไม่ผ่านการบำบัด เกิดขึ้นมานานกว่า 30 ปี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากองค์การจัดการน้ำเสีย หรือ เจ้าหน้าที่เทศบาลจะอ้างว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้น้ำล้นจากระบบท่อบำบัดน้ำเสีย ทำให้มีน้ำเสียจากชุมชุนไหลลงทะเล แต่ล่าสุดไม่มีฝนตกตกแต่ยังมีน้ำจากชุมชนไหลลงทะเลปกติ ทั้งที่ในเขตเทศบาลมีการก่อสร้างระบบบัดน้ำเสียมูลค่าหลายร้อยล้านบาทนานกว่า 20 ปี ด้านหลังวัดธรรมิการามวรวิหาร จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งผู้บริหารระดับจังหวัด เทศบาลเมืองประจวบฯและ องค์การจัดการน้ำเสีย ให้ความสนใจเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
“ ขอให้นำน้ำเสียที่มีกลิ่นเน่าเหม็นไปเข้าระบบบำบัด ไม่ให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด 19 ที่สำคัญบริเวณดังกล่าวเป็นแลนมาร์คใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปพักผ่อน เนื่องจากมีโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมาก และขณะมีการจัดงานกาชาด แต่ปัจจุบันชายหาดบางช่วงมีสีดำคล้ำ คุณภาพน้ำทะเลมีปัญหา ซึ่งทราบวามีประชาชนเก็บหลักฐาน แจ้งร้องเรียนให้ ป.ป.ช.จังหวัดทำการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว“ จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว
ต่อมา นายศิลา โพธิ์ระย้า สมาชิกสภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการตรวจสอบจุดที่มีการปล่อยน้ำเสียลงชายหาด จากนั้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าทั้เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน จากการตรวจสอบพบว่ามีปริมาณน้ำจากชุมชนไหลปะปนกับน้ำเสียในท่อรวมน้ำเสีย ซึ่งออกแบบเป็นระบบท่อรวม หากปริมาณน้ำในท่อเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ตะกอนสีดำที่ตกค้างสะสมอยู่ในท่อ ไหลล้นรวมกับน้ำฝนและน้ำเสียออกมาตามจุดระบายน้ำล้นของบ่อผันน้ำ เบื้องต้นในสัปดาห์หน้าจะมีการลอกตะกอนภายในท่อ ในบริเวณใกล้เคียง
สำหรับการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมสร้างตั้งแต่ปี 2541 ด้านหลังวัดธรรมิการราม ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการ ฯ แต่ล่าสุดทั้งองค์การจัดการน้ำเสียและเทศบาลไม่พบแบบแปลนจาการวางท่อเก่าทั้งระบบ จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขณะที่เทศบาลได้ตั้งงบ17 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2563 เพื่อแยกน้ำเสียกับน้ำฝน ถนนเลียบอ่าวประจวบฯถึงปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้างโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด
//////////////////////////
