ภาพ-ข่าว สมบัติลิมปจีระวงษ์
นักท่องเทียวเดินเล่นชายหาดสังเกตเห็นอะไรดำๆลอยอยู่ในทะเล แต่ไม่นานก็พบซากโลมาถูกคลื่นซัดมาเกยหน้าหาดเป็นตัวที่ 2 คาดว่าน่าโลมาจะกินขยะที่ลอยในทะเลเข้าไปย่อยไม่ได้
เย็นวันที่ 10 พ.ค. 65 นายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อาสาสมัครอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมทะเลปราณบุรีได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวพบซากโลมาลอยมาเกยหาดปราณบุรี บริเวณหน้า หัวปลี รีสอร์ท ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
พบโลมาหัวบาตร หลังเรียบ อายุประมาณ 2 ปี ยาวประมาณ 1.5 ซ.ม.สภาพเริ่มจะเน่าเปื่อย ตรวจสอบตามตัวไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด เมื่อพลิกดูก็พบที่บริเวณใต้ท้องแตกเป็นแผลขนาดใหญ่มีไส้ไหลออกมา ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว คาดว่าน่าจะตายประมาณ 2-3 วัน โลมาที่พบตัวนี้เป็นตัวที่สอง จะตายมาในลักษณะเดียวกันไม่มีบาดแผลจากการโดนเครื่องมือทำการประมงแต่อย่างไร แต่ในทะเลจะมีคลื่นลมแรง น้ำทะเลขุ่น มีขยะลอยในทะเลเป็นจำนวนมาก คาดว่าโลมาอาจจะกินขยะ ที่ลอยอยู่ในทะเลเป็นพลาสติกเข้าไปนึกว่าเป็นอาหารจึงทำให้ไม่สามารถย่อยได้ทำให้ตายดังกล่าว
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจึงช่วยกันนำซากโลมาไปฝั่งกลบแทนที่จะปล่อยไว้บนชายหาดซึ่งไม่มีหน่วยงานมารับเอาไป และเพื่อไม่ให้สุนัขและสัตว์เลื้อยคลานมากัดกลิ่น เป็นที่อุจจาดตาต่อนักท่องเที่ยว จึงได้นำไปฝั่งกลบ
สำหรับ บริเวณอ่าวปราณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงจะพบเห็นฝูงโลมาหัวบาตรหลังเรียบหลายฝูง ฝูงหนึ่งมีประมาณ 5-10 ตัว โลมา มักมาหากินอยู่ในบริเวณนี้เป็นประจำ และฝูงโลมามักจะแหวกว่ายหากินใกล้ชายฝั่งทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพบเห็นได้ประจำ แต่ทุกปีก็จะพบว่ามีโลมาขึ้นเกยหาดอยู่เป็นประจำ ซึ่งบางครั้งจะพบว่าโลมาตายด้วยถูกเครื่องมือทำประมงบาดจนได้รับบาดเจ็บและตายลง หรือไม่ก็กินถุงพลาสติกเข้าไป ชาวบ้านหวั่นวิตก เกรงว่าปริมาณโลมาในพื้นที่จะลดลงจนกระทั่งสูญพันธุ์ไป คิดแล้วทำใจหาย
////////////////////////////////////////////
