ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากบันทึกการจับกุมแรงงานเถื่อนของปกครองจังหวัด ระบุว่า ภายใต้การอำนวยการของ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายณัฐวุฒิ จันทร์แก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ อส. ผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯ
ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 สัญชาติเมียนมา จำนวน 46 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 18 คน บริเวณสวนมะพร้าว ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ ห่างจากด่านสิงขรเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ( กม.)จากการสอบถามทราบว่าผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดเดินทางมาจาก รัฐยะไข่ จ.ย่างกุ้ง จ.พะโค จ.เมาะลำไย, จ.มะกุย โดยผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดลักลอบข้ามแดนไปทำงานที่ กทม, จ.สมุทรสาคร จ่ายค่าจ้างให้กับผู้นำพาชาวเมียนมาร์หัวละ 30,000 บาท เมื่อถึงปลายทาง จากนั้นได้ทำประวัติและควบคุมแรงงานชาวเมียนมาร์ทั้งหมดไปผลักดันกลับประเทศต้นทางที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร
มีรายงานว่า หลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งได้ส่งคลิปภาพระหว่างการเข้าควบคุมตัวแรงงานเถื่อนให้กับสื่อมวลชนเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีข้อความระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานชาวเมียนมาร์ 46 คน ลักลอบเข้าเมืองจากช่องทางธรรมชาติ ต่อมาพบว่าไปกบดานออยู่ในแคมป์คนงานที่เก็บอุปกรณ์และเครื่องมือก่อสร้างของเครือข่ายนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งใน ต.เกาะหลัก โดยจุดดังกล่าวห่างจากช่องทางธรรมชาติ 11 กิโลเมตร จึงเข้าไปตรวจสอบพบแรงงานเถื่อนแอบอยู่ในแคมป์ตามคลิปที่ปรากฏ แต่ต่อมาในรายงานพบว่ามีนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปถ่ายภาพบันทึกการจับกุมภายในสวนมะพร้าวบริเวณใกล้เคียง เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด
จากการตรวจสอบภาพจากคลิปในแคมป์คนงานและภาพถ่ายในบันทึกการจับกุมในสวนมะพร้าว พบว่าแรงงานชาวเมียนมาร์ที่บันทึกภาพการจับกุมในสวนมะพร้าวแต่งกายชุดเดียวกันกับการเข้าควบคุมตัวที่แคมป์คนงาน ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าแคมป์คนงานดังกล่าวว่าแรงงานเถื่อนทั้งหมดมีผู้ใดนำพา เดินทางจากช่องทางธรรมชาติด้วยยานพาหานะใด จากนั้นเข้าไปกบดานในแคมป์คนงานของนักการเมืองได้อย่างไร โดยไม่มีการตรวจสอบจากด่านตรวจของชุมชนหรือเจ้าหน้าที่ ช.ร.บ.ที่ออกลาดตระเวนในการทำหน้าที่อย่างเข้มงวด เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ช.ร.บ.มีการดักซุ่มพบรถบรรทุกแรงงานเถี่อนหนีแหกด่าน จากนั้นได้ใช้ปืนลูกซองยิงใส่รถทำให้แรงงานเถื่อนชาวชาวเมียนร์มร์เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 3 รายที่หมู่ 3 ต.เกาะหลัก 
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ด้านหน้าแคมป์คนงานดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด ห่างจากเขตชุมชนที่มีหน่วยงานราชการและประชาชนอาศัยหนาแน่นเพียง 300 เมตร ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมแรงงานงานเถื่อนหากมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาในแคมป์คนงานตามคลิปที่ปรากฎ เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ให้ที่พักพิงกับแรงงานด่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 
/////////////////////////
