อดีตโค้ช กัปตันทีมชาติวีลแชร์บาสเกตบอลคนพิการ นั่งรถเข็นเปิดร้านซ่อม ทีวี หารายได้ริมถนนเกาะหลัก (คลิป)

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

วันที่ 4  มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายนัทวุฒิ สุดสนิท   หรือ เฮียโก้  อายุ 55 ปี  เจ้าของร้านเกาะหลักอีเลคทรอนิคส์  ถนนเกาะหลัก เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์  อดีตกัปตันทีมชาติและโค้ชบาสเกตบอลวีลแชร์ ในกีฬาคนพิการระดับนานาชาติ  เปิดเผยว่า  หลังหย่าร้างกับภรรยาซึ่งมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ได้กลับมาเปิดร้านซ่อม  ทีวี.  ที่ประจวบฯนานกว่า 6 ปี เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ดูแลมารดา  แต่ต่อมามารดาเสียชีวิตจึงเหลือเพียงบิดาอายุ 97 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านต้นเกตุ  ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบฯ   สำหรับส่วนตัวอาศัยอยู่ในร้านซ่อม ทีวี เพียงลำพัง จ่ายค่าเช่าเดือนละ  7000  บาท  ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง โดยเฉพาะการขับรถยนต์ซึ่งมีการดัดแปลงอุปกรณ์ภายในรถเพื่อใช้มือแทนการใช้เท้า

หลังจากช่วงที่อายุ 19 ปี ถูกยิงที่หน้าอกกระสุนทะลุด้านหลังตัดเส้นประสาท ในโรงเรียนบ้านห้วยน้ำพุ     ต้องใช้เวลารักษา ทำกายภาพบำบัดใน รพ.ที่มีชื่อเสียงใน กทม.นานหลายปี  พ่อกับแม่ใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษา  แต่อาการไม่ดีขึ้น  ไม่สามารถเดินได้ปกติ  ทำให้กลายเป็นบุคคลพิการต้องนั่งรถเข็น จากนั้นทางเดินชีวิตก็ต้องเปลี่ยน

สมัยวัยรุ่นยอมรับว่าเป็นคนเกเร   หลังจากถูกยิงสงสารแม่ เพราะต้องดูแล ต้องหาเงินมารักษา จึงตัดสินใจให้เพื่อนมารับไปหางานทำใน กทม.โดยฝึกทำเข็มขัดแล้วนำไปขายตามร้านค้า  แต่ทำคนเดียวไม่ไหว จากนั้นไปเรียนช่างอีเลคทรอนิคส์ที่พัทยา  ซึ่งสอนเฉพาะคนพิการใช้เวลาเรียน 1 ปี 5 เดือน ระหว่างเรียนไปเห็นคนพิการเล่นกีฬาทั้งบาสเกตบอล และรถวีลแชร์ที่ใช้แข่งขันความเร็ว  ซึ่งมีทั้งโค้ชและนักกีฬาทีมชาติ  จึงไปขอเล่นบ้าง  แต่ถูกตำหนิ ไม่ได้รับการยอมรับ  จึงมุมานะฝึกซ้อมวีลแชร์บาสเกตบอลด้วยตัวเอง รวมทั้งฝึกวีลแชร์ที่ใช้แข่งขันความเร็ว  ทุกวันนี้หากมีเวลาว่างก็ไปเล่นเพื่อออกกำลังกายปกติ

มีชื่อติดทีมชาติตั้งอยู่พัทยาหลังจากมีการแข่งขันกีฬาคนพิการ    จึงจัดทีมไปแข่งวีลแชร์บาสเกตบอล เมื่อเล่นถึงรอบลึกๆโค้ชที่ทีมชาติมาเห็นแวว  จึงเรียกไปฝึก แต่ไม่มีรายได้ตอบแทน บางครั้งต้องนั่งรถไปเอง  และมีโอกาสไปแข่งแบบกระชับมิตรในต่างประเทศ  กระทั่งมีชื่อติดทีมชาติ 10 กว่าปี เคยไปแข่งในระดับอาเซียน ไป จีน เกาหลีใต้  สำหรับญี่ปุ่นเคยไปหลายครั้งทั้งฝึกโค้ชและไปแข่งขันสมัยนั้นหากได้เหรียญทองก็ได้ค่าตอบแทนเหรียญละ 5 หมื่นบาท  ส่วนในประเทศไปแข่งในระดับเขต มีการดึงตัวไปแข่งในหลายจังหวัด

จุดสิ้นสุดของการเล่นทีมชาติขณะที่อายุ 42 ปี ภรรยาคลอดบุตรสาว  หากไปฝึกซ้อมนาน 3 – 4 เดือน หาเป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติก็ต้องซ้อมนานหลายเดือน  ภรรยาก็ต้องลำบากหากอยู่คนเดียว  จากนั้นจึงเลิกเล่นทีมชาติแล้วเปิดร้านซ่อม ทีวี ใน กทม. เพื่อหารายได้ กระทั่งสิ้นสุดความสัมพันธ์กับภรรยาก็กลับมาเปิดร้านที่ประจวบฯ ทุกวันนี้อยู่ตัวคนเดียวก็ไม่มีปัญหา พอมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้

///////////////////////////////////////////////////////////////////