วันที่ 22 มกราคม 2566จากกรณี เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ต. ภัทรพล ปิ่นทอง สารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย อ. แก่งคอย จ.สระบุรีได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกแทงเสียชีวิตได้ประสานอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง สระบุรี ไปที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่าห้องที่ 4 เลขที่10/32 หมู่ 7 ต.ทับกวาง อ. แก่งคอย จ.สระบุรี พบศพชื่อนายวโรรัตน์ เกสสมบูรณ์ (พ่อเลี้ยง)อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม. 5 ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จ.กำแพงเพชร สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อนอนเสียชีวิต อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องเช่า บริเวณหน้าอกขวามีรอยถูกแทงด้วยอาวุธมีด จำนวน 1 แผล มีเลือดเปื้อนที่พื้นห้อง ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนายธีระพงษ์ อับโพธิ์ไทร(ลูกเลี้ยง) อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม. 5 ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จ. กำแพงเพชร ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ไม่ห่างจากศพผู้ตาย ถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณอวัยวะเพศ โดยมีเลือดไหลออกเปื้อนกางเกงยีนที่สวมใส่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยังพบอาวุธมีดพก ขนาด 3 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าในห้องเช่ายังมีขวดเหล้า 40 ดีกรีตั้งอยู่จำนวน 2 ขวด ซึ่งขวดที่หนึ่งดื่มไปหมดแล้ว ยังพบอีกขวดเปิดฝาอยู่ มีข้าวของกระจัดกระจายเสียหายเต็มห้อง เหมือนมีการต่อสู้กัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์นายนายธีระพงษ์ อับโพธิ์ไทร ( ลูกเลี้ยง ) ปรากฏว่า ปริมาณแอลกอฮอล์มีถึง 215 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ต่อมาจึงได้ไปทำการนำตัวนายธีระพงษ์ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลแก่งคอยเบื้องต้น พบมีร่องรอยบาดแผลเพียงเล็กน้อย จากนั้นจะไปนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินคดี เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
จากการสอบถาม นางราตรี เหมือนเงิน ภรรยาของนายวโรรัตน์ เกสสมบูรณ์ ( พ่อเลี้ยง )ผู้ตาย ได้เล่าว่า ตนเองตั้งวงดื่มเหล้าประมาณ 1 ทุ่ม นั่งดื่มอยู่ 3 คนผัว เมีย ลูก ผัวของตนเองพูดขึ้นมาขณะที่ดื่มเหล้าอยู่ว่า อยากได้เตาแก๊ส พร้อม ถังแก๊ส พร้อมเงินอีก 600 บาท คืน ตนเองเลยพูดไปว่าจะเอาอะไรนักหนาของแค่นี้ จากนั้นก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันไปมา ซึ่งก็กินเหล้าขาว 40 ดีกรีหมดไปแล้ว 1 ขวด ซึ่งขณะนั่งดื่มกันอยู่ก็พูดวกวนแต่เรื่องนี้ ซึ่งผัวของตนมีนิสัยขี้หึงหวง ขณะที่ตนเองไปทำงานก่อสร้างก็ยังจะหึงตนเองหาว่าไปมีชู้ที่ไซด์งานก่อสร้างบ้าง ส่วนตนเองกับลูก ก็เพิ่งเข้ามาอยู่ด้วยประมาณ 1 อาทิตย์ เนื่องจาก สามีเก่าตาย ส่วนลูกชายตน(คนแทง) ก็เพิ่งเข้ามาอยู่ด้วย 3 วัน เนื่องจากว่าไม่มีงานทำ ซึ่งผัวของตนก็เป็นคนไปรับมาอยู่ด้วย และหลังเลิกงานก็จะร่วมวงนั่งดื่มเหล้ากันเป็นประจำ และเมื่อผัวของตนเมาทีไรก็จะคอยหาเรื่อง พูดแต่เรื่องเดิมๆอยู่ตลอดจนเมา เวลา 20.00 น. ก็ออกไปขับรถกระบะที่อยู่หน้าห้องเช่าตกข้างถนนยังไม่ได้เอาขึ้นมาเลย ส่วนเรื่องที่แทงกันนั้นลูกตนเองเล่าให้ฟังพ่อเลี้ยง แทงลูกของตนเองก่อน เนื่องจากทะเลาะกัน และยื้อกันไปมา โดยนิสัยส่วนตัวของผัวตนเป็นคนก้าวร้าว จะทะเลาะกันบ่อย ซึ่งที่ผ่านาไม่กี่วันก็เคยทะเลาะกัน เมื่อเหล้าเข้าปากทีไรก็พูดแต่เรื่องภายในครอบครัวตลอด จนลูกตนเองทนไม่ไหว ลูกชายตนเองจึงถามพ่อเลี้ยงกลับไปว่าจะเอาอย่างไงกับผม ผมก็ส่งเสียให้เงินให้ทองและซื้อของให้พ่อกิน ซึ่งลูกของตนก็เรียกผัวของตนเองว่าพ่อ ซึ่งก่อนแทงกันผัวของตนเองได้เดินออกไปข้างนอกก่อนแล้ว จากนั้นได้กลับเข้ามาและถามลูกของตนเองว่า มึงจะเอาอย่างไรกับกู จากนั้นก็ยื้อกันไปมา ซึ่งเรื่องก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ส่วนผู้ตายนั้นเป็นพ่อเลี้ยงของคนที่แทง สำหรับตนเองไม่รู้สึกเสียใจ โดยผู้ตายเคยพูดไว้ว่าถ้าเขาตาย ครอบครัวตนเองก็จะไม่มีความสุข จะคอยพูดอยู่แบบนี้ตลอด และเมื่อเหล้าเข้าปากก็จะเป็นแบบนี้ ซึ่งเป็นมาหลายครั้งแล้ว ตนเองทนพฤติกรรมของผู้ตายมานานแล้ว
ช่วงบ่ายของวันนี้ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุพบชาวบ้านละแวกใกล้เคียงห้องเช่าหลังที่เกิดเหตุพูดวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางราตรี เหมือนเงิน ภรรยาของนายวโรรัตน์ เกสสมบูรณ์ (พ่อเลี้ยง)ผู้ตายได้เปิดห้องเช่าให้ผู้สื่อข่าวดูพบรอยเลือดแห้งหยดอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำหลายจุด ยังมีข้าวของกระจัดกระจายตามพื้นอยู่ และยังพบรถกระบะสีเขียวของผู้ตายจอดอยู่หน้าห้องเช่า สอบถามนางสมัย อายุ 52 ปี ที่พักอาศัยอยู่หลังห้องเช่าเล่าว่าตนได้ยินเสียงนายวโรรัตน์ ผู้ตายทะเลาะกับลูกเลี้ยง กันอยู่พักใหญ่ สักพักก็ได้ยินเสียงผู้ตายท้าทายให้ นายธีระพงษ์ อับโพธิ์ไทร(ลูกเลี้ยง) แน่จริงก็เอามีดมาแทงเลย สุดท้ายมาทราบว่านายวโรรัตน์ ถูกลูกเลี้ยงใช้มีดแทงเสียชีวิตแล้ว
ด้านนางราตรี เหมือนเงิน ภรรยาของนายวโรรัตน์ เกสสมบูรณ์ (ผู้ตาย)เล่าว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากที่ผู้ตายมาทวงหาถังแก๊สกับหัวแก็ส และเงิน 600 บาท ให้นำมาคืนตน ผู้ตายจำนำไปขายเพื่อแลกเหล้า จนผู้ตายด่าตนเสียๆหายๆจนลูกชายตนได้เข้าห้ามปราบแต่ผู้ตายก็ยังไม่หยุด และมีการลงไม้ลงมือกัน สามีของตนได้ใช้มีแทงลูกชายตนก่อนเข้าที่บริเวณลูกอัณฑะจนเย็บถึง 4 เข็ม สุดท้ายลูกชายตนก็ใช้มีดพกแทงสวนเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต สามีตนมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ลูกของตนก็พึ่งมาอยู่กับตนได้เพียง 3 วัน ส่วนศพสามีส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต จ.ปทุมธานี และยังไม่รู้ว่าจะรับศพสามีมา ทำพิธีทางศาสนาที่วัดไหนต้องรอปรึกษาญาติของผู้ตายก่อน
นายธีระพงษ์ อับโพธิ์ไทร ผู้ก่อเหตุ ยังคงถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.แก่งคอย และวันพรุ่งนี้จะนำตัวส่งฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดสระบุรี ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
////////////////////////////////////////////////////////////
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน
