พบศพสาวใหญ่ถูกฆ่าหมกศพห้องเก็บของใต้พื้นบ้านตัวเอง ตร.ทับสะแก เร่งตรวจสอบ **ณัฐธภพ พันสาย รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

เมื่อเวลา​ 16.00​น.วันที่​ 9  ก.​พ.66​ พ.ต.ท.วินัย ลายละเอียด สว.(สอบสวน)สภ.ทับสะแก  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์​ ได้รับแจ้งพบศพคนถูกฆ่าตาย​ ที่บ้านเลขที่​ 7/3  หมู่ที่​ 6  บ้านหนองหอย​ ต.อ่างทอง​ อ. ทับสะแก​ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น​ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม​ด้วย​ พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.ทับสะแก​ พ.ต.ท.กำเหนิด ประสพผล​ รอง ผกก​ (สอบสวน)สภ.ทับสะแก​  พ.ต.ต.วิโรจน์ ไทรโยควิจิตร

สว.สส.สภ.ทับสะแก​  ร.ต.อ.สมรักษ์​ จรงค์หนู​ รอง​ สว.สส.สภ.ทับสะแก​ พร้อมชุดสืบสวน​ สภ.ทับสะแก​   ตร.พิสูจน์หลักฐาน​ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์​ แพทย์เวร​ รพ.ทับสะแก​ และมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก​ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

บริเวณ บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว​ ยกพื้นสูงปลูกอยู่ในสวนมะพร้าว และข้างๆบ้านปลูกต้นไม้ร้อมรอบขอบชิดบริเวณด้านหลังบ้านพบชาวบ้านยืนมุงดูจำนวนหนึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ​ น.ส.บุญเรือน​ โค้วปรีชา​ อายุ​ 49 ปี​ เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ​ สภาพศพถูกยัดอยู่ในห้องเก็บของใต้ถุนบ้านด้านหลังบ้านยังอยู่ในชุดทำงานเท้ายังสวมรองเท้าบูธอยู่​ และที่มือยังสวมถุงมืออยู่​ มีประตูไม้ปิด ใกล้ๆมีถังน้ำอยู่หลายถัง​ บนตัวผู้ตายพบจอบน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตวางอยู่บนศพ​ ที่นอนตะแคงคว่ำหน้า​ เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานที่คาดว่าคนร้ายใช้โดยเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้ตรวจสอบ​ จากนั่นนำศพผู้ตายออกจากในช่องเก็บของ​ แพทย์เวรตรวจสอบ​ พบว่าที่บริเวณกกหูซ้ายถูกของแข็งฟาด จนกะโหลกศีรษะแตกและคอด้านหลังถูกฟาดจนยุบใบหน้าเละไม่มีเขาโครงร่างเดิมช่วงบริเวณแก้มซ้ายเป็นแผลกรามหักจากนั้นจึงนำตัวผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ที่นิติเวชฯ และนำอุปกรณ์ต่างๆที่คาดว่าคนร้ายใช้ไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง​ โดยคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ​ 12-24​ ชม.

จากการสอบถาม​ นายขวัญชัย​ โค้วปรีชา​ พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า​ ผู้ตายเป็นน้องสาวคนสุดท้องของตนในจำนวนพี่น้อง​ 9​ คน​ ปกติบ้านหลังดังกล่าวผู้ตายจะอยู่บ้านคนเดียว​ แต่ช่วงหลังมาพบว่ามีชายมาติดพันและไปๆ​ มาๆอยู่ประจำโดยปกติน้องสาวจะทำสวน​ เลี้ยงวัวประมาณ​ 10  ตัว​ อยู่บ้าน​ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปคือ​ กระเป๋าสตางค์​ และโทรศัพท์ของผู้ตายหายไปไม่สามารถติดต่อได้​ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้โทรศัพท์หาแต่ไม่สามารถติดต่อได้​และไม่ได้ขยับวัวออกกินหญ้า จนมาช่วงบ่ายตนเองและญาติๆออกตามหาข้างๆบ้าน​ จนมาพบถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดเอาศพมายัดในห้องเก็บของ​ ใต้ถุนบ้าน​ ซึ่งปกติบ้านหลังดังกล่าวจะไม่มีใครเข้าออก​  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ​ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด​ เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาวันที่ 10 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.พงษ์ศิริ แก่งนอก ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.ทับสะแก พร้อมชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุดสืบสวน สภ.ทับสะแก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมสอบพยานใกล้ชิด และญาติๆ ของผู้ตายอีกครั้งเพื่อหาแนวทางการสืบสวนสาวถึงคนร้ายที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

นางสุทธาสินี แก้วมณีโชติ อายุ 59 ปี พี่สาวแท้ๆของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทราบว่าตำรวจได้เรียกผู้ต้องสงสัย ไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งผู้ชายคนนี้มักจะเข้าออกบ้านน้องสาว(ผู้เสียชีวิต)บ่อยๆ แต่ตนไม่เคยพูดคุย เคยแค่เห็นผ่านๆ ซึ่งผู้ชายคนนี้มักทำตัวแปลก เวลามาที่บ้านน้องสาวหากเห็นมีคนอยู่ หรือมีญาติพี่น้องมาหา ก็มักจะไม่ลงจากรถ ซึ่งจะเห็นก็แค่ตอนขับรถผ่านหน้าบ้านเรา ซึ่งน้องสาวมักมาเล่าให้ทางพี่ๆ ฟังว่า ผู้ชายคนนี้มักชอบมาเอาเงิน มาขอเงินเพราะทางฝ่ายชายมีหนี้สินเยอะ เคยมาบ่นให้ทางญาติๆฟังว่าถ้าตนตายไปก็ผู้ชายคนนี้นี่แระ ซึ่งก็คาดว่าสาเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากเรื่องเงิน เพราะน้องสาวตนก็ค่อนข้างมีเงิน มีที่ มีทาง มีวัว

ด้าน ผกก สภ ทับสะแก กล่าวว่า  คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน การออกหมายจับต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน  สำหรับช่วงบ่ายวันนี้จะเชิญลุงอายุประมาณ 60 ปีซึ่งมีสวนติดอยู่กับบ้านผู้ตายมาสอบปากคำที่โรงพัก ทั้งนี้ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องการแบ่งทรัพย์สินและปัญหาหึงหวง

//////////////////////

ณัฐธภพ​ พันสาย​ รายงาน