“กอ.รมน.จว.ขอนแก่น บูรณาการร่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธปืน ยาเสพติด สามารถจับกุมยาเสพติด และ อาวุธปืน ได้จำนวนหลายกระบอก !!
วันนี้ 9 มี.ค.66 เวลา 06.00 น.พ.อ.สุรพงษ์ ยอดอินทร์ รอง.ผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น รวมทั้ง พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รองผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น,พ.ต.ท.ศิวนัส สุวรพันธ์ สวป.ฯ
นายณชพัฒน์ ไกรศรีวรรธนะ จนท.ชุด ชปข.กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจ,ชุดปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ประกอบด้วย พ.จ.อ.จักรกรี วิชาชาติ ผบ.ร.อส.จ. ขอนแก่น ที่ 1,นายนคร สุพรรณ ผช. ปกจ.ขอนแก่น,นายกิตติชัย ชูปลื้ม ผช.ปกจ.ขอนแก่นและสมาชิกกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดขอนแก่น
จัดชุดปฏิบัติการร่วม จำนวน 3 ชุด ลงพื้นที่เป้าหมายคือ บ้านโนนทัน และบ้านโนนม่วง รวม 3 จุด โดยใช้หมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ ค.113-114/2566 ลง 8 มี.ค.66 เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมาย มีผลการตรวจค้น ดังนี้
1.ร่วมจับกุมตัว นายสุทัศน์ หรือหน่อง พลบำรุง อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 200/ 121 ม.2 บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน ลูกโม่ ยี่ห้อ สมิธ แอน เวสสัน ขนาด.357 ลำกล้อง 6 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขนาด .357 จำนวน 23 นัด และ อาวุธปืน สไตล์ เออร์ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 16 นัด ในข้อหา “ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต “
2.ร่วมจับกุมตัว นายยุทธศาสตร์ โสภาพรหม อายุ 39 ปี ที่อยู่ 409/13 หมู่ 3 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนลูกซอง ยี่ห้อ เรมิงตัน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน เบอร์ 12 จำนวน 14 นัด ในข้อหา “ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต “
3.นาย BOUNKEUTH หรือเปา ONEPHENG (สัญชาติ ลาว)อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 3/1044 ม.14 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหา ครอบครองยาบ้า จำนวน 2 เม็ด
4.นายสหรัฐ หรือเบ้นซ์ เพื่องโคตร อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 3/1271 หมู่ 7 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหา เสพยาบ้าฯ
5.นายวิษณุ หรืออ้วน ทองกูล อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 53/2601 หมู่ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ในข้อหา เสพยาบ้าฯ
จากนั้น จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา รวม 5 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
///////////////////////////
