ประจวบคีรีขันธ์ อ้างเป็นกรมบัญชีกลางหลอกให้โหลดแอพเพื่อรับเงินค่าตอบแทน โดนแฮ็กดูดเงินเกลี้ยง(คลิป)** พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา รายงาน

แชร์ข่าวนี้

ประจวบคีรีขันธ์ อ้างเป็นกรมบัญชีกลางหลอกให้โหลดแอพเพื่อรับเงินค่าตอบแทน โดนแฮ็กดูดเงินเกลี้ยง

เสียรู้จนได้อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วัยเกษียณ โดนแก๊งค์มิจฉาชีพอ้างเป็นกรมบัญชีกลาง หลอกให้โหลดแอพเพื่อรับเงินค่าตอบแทนพิเศษ โดนแฮกสูญเงินเกลี้ยงบัญชี

วันที่ 22 ธันวาคม 66 นายสมพงษ์ กรีดกราย อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าโดนแก๊งค์มิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอพฯจากลิงค์ โดยหลอกให้เชื่อว่า เป็นแอพจากกรมบัญชีกลาง เพื่อจะจ่ายเงินค่าตอบแทนหลังจากเกษียณราชการ จากนั้นก็ถูกดูดเงินจากบัญชีจนเกลี้ยง

นายสมพงษ์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากสายหนึ่ง อ้างว่า เป็นฝ่ายการเงินจากกรมอุทยานฯ สอบถามว่า หลังจากเกษียณมา ทางกรมฯมีเงินค่าตอบแทนพิเศษให้หรือไม่ จากนั้นก็แจ้งว่า ตอนนี้ทางกรมมีโครงการจะจ่ายเป็นค่าตอบแทนเป็นเงินตกเบิกให้เป็นเงินก้อนหนึ่งเกือบ 6 หมื่นบาท แต่ต้องให้ข้อมูลกับกรมบัญชีกลางเสียก่อน ต่อจากนั้นไม่นานก็มีสายเข้ามาเป็นอีกเบอร์หนึ่งแจ้งว่าจากกองบำเหน็จบำนาญ สอบถามหลอกล่อว่ามีเงินตกเบิกจะจ่ายให้ แต่ต้องให้ยื่นคำร้องโดยการกดลิงค์เข้าไป แล้วให้ใส่ข้อมูลต่างๆ

โดยหลังจากทำตามขั้นตอนต่างที่ระบบแจ้งมา สักพักก็มียอดเงินโอนเข้าบัญชี 17,000 บาท เป็นยอดแรก โดยจะมีโอนตามมาอีกยอด ทำให้ตนเองเชื่อถือว่า น่าจะเป็นเรื่องจริง ระหว่างนั้นทางฝ่ายสาวมิจฉาชีพได้ติดต่อโทรมาทางไลน์อีกว่าให้โอนเงินจากบัตรเครดิตของธนาคารเข้ามาให้ในบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนเอง ในตอนนั้นตนเองเห็นว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี 17,000 บาทแล้วจึงไม่ได้เฉลียวใจ จึงกดโอนเงินจากบัตรเครดิจเข้าในบัญชีอีกจำนวน 33,000 บาท แต่เนื่องจากการโอนเงินจากบัตรเครดิตต้องใช้เวลาสักพัก ในระหว่างนั้นตนเองรู้สึกแปลกใจที่ ทุกอย่างเงียบไปไม่มีการแจ้งยอดเงินที่เหลือ อีก 47,000 บาทเข้ามา ตนเองจึงเข้าเช็คยอดเงินจากแอพพิเคชั่นของธนาคาร และพบว่ายอดเงินเหลือ 0 บาท จึงทำให้ทราบว่า ตนเองต้องโดนแฮกข้อมูลตามที่เคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว จึงโทรเข้าไปยังธนาคารขอให้ระงับการใช้งานบัญชีของตนชั่วคราว แล้วตรวจสอบจากแอพฯธนาคารพบว่ายอดเงินทั้งหมดของตน ซึ่งมีเงินของตัวเองอยู่ 29,410 บาทรวมอยู่ด้วย ถูกโอนไปยังบัญชีของนาย ไชยมงคล กาศักดิ์ ส่วนยอดเงินที่จะโอนจากบัตรเครดิตนั้น เคราะห์ยังดีที่ยอดเงินยังไม่ทันเข้าบัญชี ทำให้มิจฉาชีพได้เงินไปเพียงยอดเดิมที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น

ตนเองจึงได้รวบรวมหลักฐาน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรีเพื่อแจ้งความเอาผิดกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ โดยทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้”กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หรือ “กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์” ดำเนินการต่อไป

นายสมพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอฝากเตือนไปยังทุกคนว่าหากได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานต่างๆ และหากว่ามีการบอกให้โหลดแอพฯอะไรก็อย่าได้หลงเชื่อทำตามโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นก็อาจจะโดนหลอกแบบตนเอง

** พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา รายงาน