สระบุรี ตกใจสุดขีด เจ้าของร้านสักคิ้วหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดเสียงดังสนั่นไฟลุกท่วม** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี   ตกใจสุดขีด เจ้าของร้านสักคิ้วหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดเสียงดังสนั่นไฟลุกท่วม

วันที่ 8 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรีได้รับแจ้งว่า เกิดหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด มีเปลวไฟลุกไหม้ เกรงว่าจะลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชน บริเวณ  ถ.เทศบาล 3 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี (ซอย ยิ้ม ยิ้ม) จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ในที่เกิดเหตุพบว่า เปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างแรง เนื่องจากปลอกหุ้มสายไฟ และสายสื่อสาร เป็นฉนวนไฟได้อย่างดี

ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันฉีดน้ำเพื่อดับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 15 นาที ไฟที่กำลังลุกไหม้จึงได้ดับลง ซึ่งคาดว่าถ้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช้าอาจเกิดไฟลุกไหม้ลามติดบ้านเรือนประชาชน ก็เป็นได้ จะส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาตัดกระแสไฟฟ้าในที่เกิดเหตุ  ส่วนสาเหตุการเกิดหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งการเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีผู้ไดได้รับอันตราย มีเพียงรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย บริเวณ ตัวรถ และกระจกหน้ารถ ที่ถูกปลอกสายไฟที่ถูกไฟไหม้ หยดใส่

ทางด้านนางมนทิชา แก้วโค้ง อายุ 60 ปี เจ้าของร้านคุณขวัญบ้านคิ้วสวย ขณะที่ตนเองเข้ามาเปิดร้าน ได้ยินเสียงหม้อแปลงไฟฟ้าเกิดระเบิดขึ้น เสียงดังมาก จนตนเองตกใจสุดขีด จากนั้นได้มีเปลวไฟลุกไหม้ และมีปลอกหุ้มสายไฟ ได้หยดใส่รถเก๋ง ของตนเองที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้าน และมีไฟลุกขึ้น ตนเองตั้งสติได้ได้นำผ้ามาตีไฟให้ดับ ทำให้ตนเองยืนงงทำอะไรไม่ถูก คิดได้จึงได้ไปหยิบกุญแจรถมาขยับรถหนี พอมีลมมาไฟที่กำลังลุกไหม้ ก็ได้ลุกขึ้นอีก

ซึ่งรถของตนที่ได้รับความเสียหายนั้นมีลักษณะคล้าย เหมือนมีอะไรมีจิกเป็นรูๆ ทางตนเองจึงได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ต่อจากนี้ก็จะไปคุยกับการไฟฟ้าว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งขณะที่ไฟลุกไหม้นั้นตนเองทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ได้ไปซับคัตเอาท์ออก ซึ่งตนเองก็สงสัยว่าสายไฟ และสายสื่อสารที่หม้อแปลงระเบิดทำไมถึงได้พวงกันไว้เยอะมาก โชคดีที่ไม่เกิดเหตุในช่วงเวลากลางคืน ถ้าเกิดช่วงกลางคืนตนเองคงทำอะไรไม่ถูก

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน