กระบะจอดเที่ยวงานวัด จู่ๆเกิดไฟลุกไหม้ในห้องเครื่อง ชาวบ้านแจ้งกูภัยดับได้ทันก่อนวอดทั้งคัน (มีคลิป)**พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 21 เมษายน 67 ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุไฟลุกไหม้ในห้องเครื่องรถยนต์ ที่จอดอยู่ลานรับฝากรถ ในงานปิดทองประจำปี วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมถังดับเพลิงเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นลานรับฝากรถยนต์ของวัด ใกล้กับโรงแสดงลิเก พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน บธ 657 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ ในรถไม่มีคนขับ และรถล็อคอยู่ กู้ภัยไม่กล้าตัดสินใจที่จะทุบกระจก จึงได้ให้ทางวัดประกาศตามหาเจ้าของมาเปิดรถ ซึ่งระหว่างที่รอ ก็ใช้ถังน้ำยาเคมีสำหรับดับเพลิงฉีดนำไปก่อน และก็ได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลกุยบุรีมาช่วยดับ

ต่อมาไม่นาน เจ้าของรถก็เดินทางมาถึง ทราบชื่อว่า นายเอกชัย โพธิ์วิจิตร ได้นำกุญแจรถมาให้กู้ภัยเปิด จากนั้นก็เปิดกระโปรงรถเพื่อทำการฉีดน้ำ ซึ่งพบว่า สายไฟรวมทั้งแบตเตอรี่ถูกไฟไหม้จนละลายไปเป็นจำนวนมาก

ทางด้านนายผดุงศักดิ์ คุณศักดิ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่นำถังดับเพลิงมาช่วยดับในตอนแรกเล่าว่า ตอนมาถึงพบว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากฝากระโปรงหน้ารถ มีเปลวเพลิงให้เห็นบ้างเล็กน้อย และรถมีอาการเหมือนใครบิดกุญแจสตาร์ทรถเองหลายๆครั้ง และเวลาสตาร์ททุกครั้งรถจะขยับเดินหน้าทีละนิด เนื่องจากรถจอดคาเกียร์อยู่ พวกกู้ภัยและชาวบ้านที่มามุงดูได้ช่วยกันนำหินมาหนุนล้อเอาไว้ก่อนที่รถจะชนคันที่จอดด้านหน้า

ต่อมารถดับเพลิงมาถึงก็ทำการฉีดน้ำเข้าห้อเครื่องรถคันดังกล่าวจนเพลิงสงบลง ตรวจสอบพบว่า ในห้องเครื่องด้านหน้า วัสดุจำพวกสายไฟและพลาสติดถูกเพลิงลุกไหม้เสียหายเกือบหมด เคราะห์ดีที่ทางกู้ภัยดับได้ทันก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งคัน อีกทั้งไม่มีใครได้รับอันตราย ซึ่งทางด้านนายเอกชัยคนขับรถบอกว่า ตนเองขับรถของพ่อมาเที่ยวงาน และกำลังจะกลับแล้ว แต่ก็มีคนรู้จักโทรเข้ามาบอกว่ารถตนถูกไฟไหม้จึงรีบมาดู ก็พบว่าเป็นจริงดังกล่าว นายเอกชัยบอกต่อว่า รถคันนี้เป็นของบิดาตนซึ่งแก่แล้ว และไม่เคยซ่อมแซมเกี่ยวกับระบบไฟเลย จึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างไร

//////////////////////////////////////////////////

พื้นที่โฆษณา