ศุภมาส”ลงพื้นที่เพชรบุรีก่อนประชุม ครม.สัญจร เตรียมขับเคลื่อนเมืองเพ็ชรเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก (UNESCO Creative Cities Network)นำอาหารไทยสู่ครัวโลก** บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

ศุภมาส”ลงพื้นที่เพชรบุรีก่อนประชุม ครม.สัญจร เตรียมขับเคลื่อนเมืองเพ็ชรเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก (UNESCO Creative Cities Network)นำอาหารไทยสู่ครัวโลก

เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) พร้อม นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. และคณะผู้บริหารกระทรวง อว. ลงพื้นที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม) ที่ จ.เพชรบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานของกระทรวง อว.ในพื้นที่   โดยได้เดินทางไปยังกลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนสวนตาลลุงถนอม ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด  ซึ่งเป็นโครงการแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาตาลโตนด มีผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้นชื่อคือชาคอมบูชะ ข้าวเกรียบลูกตาล น้ำพริกหัวโหนดและแกงหัวตาลพาสเจอร์ไรส์ และมีแหล่งท่องเที่ยวคือถ้ำรงค์ ทั้งนี้ กระทรวง อว. ได้ลงขับเคลื่อนการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ โครงการการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ชุมชนเพชรน้ำหนึ่ง โครงการการบริหารจัดการระบบการเกษตรปลอดภัย โครงการรถกระเช้าล้อแทรคเก็บเกี่ยวผลไม้ในที่สูง การพัฒนานวัตกรรมถุงห่อเพชรสายรุ้ง เป็นต้น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก น.ส.ศุภมาส ได้เดินไปชมผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านทุกซุ้ม รวมทั้งได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายด้วย

น.ส.ศุภมาส  กล่าว่า กระทรวง อว.ให้ความสำคัญในการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างศักยภาพและโอกาส เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการค้าที่สูงขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยศิลปากร และหน่วยงานเจ้าภาพในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ขับเคลื่อน “เมืองเพ็ชร” ให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก (UNESCO Creative Cities Network) ในสาขาเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร เนื่องจาก จ.เพชรบุรี เป็นแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทั้งการผลิตเกลือ การปลูกและผลิตน้ำตาลจากตาลโตนด และเป็นแหล่งปลูกมะนาวรสชาติที่ดีสุด และผ่านจากการวิจัยและพัฒนาเพื่อสกัดสารสำคัญที่มีความปลอดภัย คงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการ ได้ตามมาตรฐานสากลได้ต่อยอดเป็นเมนูอาหารที่หลากหลายทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เป็นการสร้างจุดขายให้กับประเทศที่จะนำอาหารไทยสู่ครัวโลก และถือเป็น Soft Power ของประเทศไทย”

จากนั้น น.ส.ศุภมาส และคณะผู้บริหารกระทรวง อว. เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี  เพื่อเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU “ร่วมดำเนินงาน Soft Power ด้านอาหาร 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ระหว่าง 6หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย  สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย  ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏและสถาบันวิทยาลัยชุมชน โดยมีปลัดกระทรวง อว. และเชฟชุมพล แจ้งไพร มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย   น.ส.ศุภมาส ได้สวมใส่ชุดเชฟและลงมือทำเมนู “ผัดไอ้คุ่ย” ซึ่งถือเป็นสำรับอาหารเก่าแก่ของเมืองเพชรบุรี จัดเป็นอาหารประเภทผัดที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เพราะใช้เครื่องเทศหลากหลายชนิดในการปรุงเครื่องแกง โดยมีคณะผู้บริหารและผู้เข้าร่วมงานต่างส่งเสียงเชียร์

น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. พร้อมเดินหน้าโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย โดยจะใช้กลไกของมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวง อว. ทั่วประเทศสร้างเชฟขึ้นมาตามอัตลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ เพราะมหาวิทยาลัยมีเครื่องมือ มีอุปกรณ์ มีห้องปฏิบัติการอาหารชั้นสูงได้มาตรฐานสากล มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีงบประมาณ  และขณะนี้กระทรวง อว.ได้ร่วมกับเชฟชุมพลจัดทำหลักสูตรด้านอาหาร โดยจะเรียน 240 ชม. เน้นปฏิบัติ 80% เน้นทฤษฎี 20% ตั้งเป้าว่าในปี 2567 จะผลิตเชฟได้ 1 หมื่นคน และในเชฟ 1 หมื่นคน จะต้องมีมากกว่า 5,000 คนได้งานทำ เพราะนี่คือโครงการเรือธงของ Soft Power ประเทศไทย

ด้านเชฟชุมพล เปิดเผยว่า กระทรวง อว.จะเป็นกระทรวงหลักในการดำเนินโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย โดยในปี 2567 เราตั้งเป้าจะมีเชฟ 1 หมื่นคน ปี 2568 2 หมื่นคน ปี 2569 2 หมื่นคน และปี 2570 2.5-2.8 หมื่นคน โดยกระทรวง อว. จะนำในเรื่องของหลักสูตรอาหารที่มีมาตรฐานสู่ชุมชน เพราะการทำอาหารให้อร่อยจะต้องมีหลักสูตรที่มีมาตรฐาน ที่สำคัญ เรื่องการทำอาหารคนไทยไม่เป็นรองใคร และขณะนี้ประเทศไทยเป็น Top 3 ด้านอาหารของโลก ซึ่งโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เซฟอาหารไทย จะเริ่มในช่วงปลายเดือน ก.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 2567 นี้

** บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ รายงาน