สระบุรี อีกแล้วป่าสักเน่า ปลาในกระชังลอยแพตาย ผู้เลี้ยงคอตกจำใจขายราคาถูกขาดทุนครึ่งล้าน
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 สื่อโชเชียลในพื้นที่ จ.สระบุรีลงภาพเจ้าของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำป่าสัก เขต อ.เสาไห้ เชิญชวนประชาชนไปช่วยซื้อปลาทับทิม ที่เลี้ยงไว้ในกระชังพากันลอยคอหงายท้องตายเป็นจำนวนมาก จำใจต้องขายราคาถูกดีกว่าปล่อยให้เน่าทิ้ง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหลังบ้านเลขที่ 18/4 ม.1 ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เป็นโรงเรือนสำหรับเก็บอาหารปลาอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ทางลงกระชังเลี้ยงปลามีชาวบ้านเป็นจำนวนมากกำลังเลือกปลาใส่ถุงที่ผู้เลี้ยงนำขึ้นใส่ตู้แช่/มากองไว้กับพื้นซีเมนต์ ส่งให้ครอบครัวเจ้าของกระชังเลี้ยงปลาต่างสาละวนช่วยกันนำขึ้นชั่งกิโล โดยปลาไซด์เล็ก 5-6 ขีด กก.ละ 35 บาท 3 กิโล 100 บาท ไซด์ใหญ่ 8 ขีด-1 กก. ขายกิโลละ 50 บาท (ถูกกว่าท้องตลาดครึ่งต่อครึ่ง)
ทางด้านนายอเนก ชมภูนุช เจ้าของโก๊ะแพปลา เล่าว่าแพปลาของตนเองมีอยู่ด้วยกัน 30 บ่อ เกิดการน็อกน้ำปลาตายทุกบ่อ สาเหตุเกิดจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีน้ำเสียไหลผ่านมาทำให้ปลาเกิดการน็อกน้ำ มีปลาหงายท้องตายเป็นจำนวนมาก อีกบางส่วนพากันลอยคอขึ้นเหนือน้ำอ้าปากหายใจ ตนจึงรีบนำเครื่องปั๊มน้ำ สร้างละอองไอน้ำเพิ่มค่าออกซิเย่นต์ทันที ก็ช่วยได้ส่วนหนึ่งซึ่งตนเองพยายามเปิดออกซิเจนให้ปลาแล้วแต่ก็สู้ไม่ไหว
เนื่องจากน้ำมันเสียมาก และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งตนเองก็เห็นการแจ้งทางเพจว่า ทางคลองเพรียวได้ปล่อยน้ำเสียมาสู่แม่น้ำป่าสัก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุทำให้ปลาตายเนื่องจากว่าน้ำมีกลิ่นเหม็นมากและหน่วยงานที่นำน้ำจากแม่น้ำป่าสักไปทำน้ำประปาก็มีชาวงบ้านร้องเรียนมาเหมือนกันว่าน้ำมีกลิ่นเหม็นมาก ส่วนมูลค่าความเสียหายของแพปลาของตนเองนั้นมีมูลค่าหลายแสนบาท ตอนนี้ตนเองพยายามที่จะไล่ๆเอาปลาที่เริ่มจะเสียขึ้นมาไล่ขายออกไปก่อน ซึ่งราคาปกติที่ขายอยู่หน้ากระชังราคากิโลละ 90 บาท
ตอนนี้ต้องรีบขายออกในราคา 3 กิโล 100 บาทหรือกิโลละ 50 บาทแล้วแต่ขนาดแต่ถ้าคิดเป็นตันน่าจะเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่าตอนนี้ตนเองยังเอาปลาขึ้นมาไม่หมด ซึ่งตนเองเอาเครื่องปั๊มเข้าช่วยแล้วแต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าน้ำเสียมากๆก็ไม่สามารถที่จะช่วยได้ปลาก็จะเกิดการน็อกน้ำตาย ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาแพปลาของตนก็ได้รับผลกระทบแบบนี้อยู่เหมือนกัน
เนื่องจากน้ำก็เป็นในลักษณะนี้ ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการแก้ไขกันแล้วหรือยัง มันส่งผลกระทบทำให้เดือดร้อนกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอุปโภค บริโภค จึงอยากให้หน่วยงานเข้าแก้ไขให้เนื่องจากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเป็นรอบที่ 2 แล้วใน 1 ปีนี้ซึ่งมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 5 แสนบาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปลาทับทิมตายครั้งนี้ มาจาก “ปลาน็อกน้ำ” ขาดอากาศหายใจ คุณภาพน้ำในแม่น้ำป่าสักขณะนี้ มีกลิ่นเน่ารุนแรงมาก มาจากอะไรตนคงไม่ต้องบอกคนสระบุรี ต่างรู้กันดี แทบทุกปีมักประสบปัญหาปลาตาย มากบ้าง น้อยบ้าง เป็นประจำ ปีนี้ (2567) ราคาจำหน่ายปลาดีขึ้น แต่ราคาอาหารปลาก็แพงตามไปด้วย ที่หนักสุดต้องมาประสบปัญหา “น้ำเน่า” ปลาตายต้องขาดทุนซ้ำซาก คนแจ้งให้หน่วยงานราชการทราบแล้วแต่ยังไม่มีผู้ใดลงมาดู
** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน
