ประจวบคีรีขันธ์  แกนนำต้านโกงจี้รักษาการผู้ว่าฯ แถลงข้อพิรุธโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง หลังใช้งบก้อนโต 144.7 ล้าน เจอการรถไฟห้ามใช้พื้นที่( คลิป )** สุรยุทธ ยงชัยยุทธ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

ประจวบคีรีขันธ์  แกนนำต้านโกงจี้รักษาการผู้ว่าฯ แถลงข้อพิรุธโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง หลังใช้งบก้อนโต 144.7 ล้าน เจอการรถไฟห้ามใช้พื้นที่

วันที่  23  กรกฏาคม 2566  จ่าอากาศเอก เสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์   พร้อมด้วยนายสมพร ปานแดง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.) หมู่ 10 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมหลังจากกรมโยฯ ใช้งบ 144.7  ล้านบาท ทำโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯตั้งแต่ปี 2560 แต่สำนักงานโยฯจังหวัดมีแผนจะโอนภารกิจโครงการนี้ให้ อบต. เกาะหลักเพียงแห่งเดียว

โดยเริ่มตรวจสอบเส้นทางน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์จาก ต.เกาะหลัก ฝั่งตะวันตกที่สะพานข้ามถนนเพชรเกษม หน้าห้างโกลบอลเฮ้าท์ พบว่าลำห้วยทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของถนนเพชรเกษม มีการออกโฉนดที่ดินทับลำห้วยทั้งหมด   จากนั้นตรวจสอบไปตรวจสอบท่อระบายน้ำริมถนนเพชรเกษมขาล่อง ด้านทิศใต้ห่างจากสถานีตำรวจทางหลวง 200 เมตร  พบว่ามีร่องน้ำขนาดเล็ก  และสำรวจการทำโครงการของกรมฯ ที่ถนนซอยสายเพชรเกษม –ดอนเหียง ด้านข้างสถานีตำรวจทางหลวง โดยทำบล็อกคอนเวิร์ทขนาดใหญ่ฝั่งใต้ถนน แต่รับน้ำจากด้านหน้าที่ดินโฉนดของเอกชน

 

นายสมพร ปานแดง ส.อบต. หมู่ 10 ต.เกาะหลัก  กล่าวว่า ยืนยันว่าการใช้งบประมาณในพื้นที่ อบต.เกาะหลักไม่มีความคุ้มค่า ขณะที่ตนได้เสนอให้ทำโครงการเพิ่ม โดยทำท่อรับน้ำจากริมถนนเพชรเกษมแต่ไม่ได้ดำเนินการ  หากฝ่ายบริหารเสนอญัตติให้สภา อบต.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในฐานะ 1 ใน  11 ส.อบต.จะคัดค้านโครงการนี้  เนื่องจากตรวจสอบแล้วการใช้งบไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วม จากการนำน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ลงทะเลได้จริง  และกรมโยธาทำ

“ โครงการนี้ในเขตเทศบาลใช้งบกว่า 100  ล้านบาท แต่ทำการก่อสร้างในเขต อบต.เพียง 44 ล้านบาท เท่านั้นและการวางท่อใต้ถนนยังมีปัญหาในบางจุดเนื่องจากผ่านที่ดินป่าช้า ผ่านที่ดินเอกชน   หากถ่ายโอนให้ อบต. แห่งเดียวเมื่อโครงการชำรุดในเขตเทศบาล  อบต.จะใช้งบแก้ปัญหาได้อย่างไร  ขณะที่จุดรับน้ำที่กรมโยฯ  ก่อสร้าง ห่างจากร่องทศกัณฑ์ทางทิศเหนือมากกว่า 1 กิโลเมตร มีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่  มีโฉนดที่ดินนายทุนกั้นขวางทั้งหมด   ขณะที่ลำรางธรรมชาติในอดีตร่องน้ำจะไหลไปทางทิศใต้”

จ่าอากาศเอก เสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์  กล่าวว่าว่า เดิมโครงการนี้การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ โดยอ้างว่ารับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์   แต่ก่อสร้างผิดจุด เนื่องจากข้อเท็จจริงเป็นการระบายน้ำจากร่องประดู่ ด้านหลังโรงเรียนกิตติคุณ นำน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งตะวันตกผ่านทางรถไฟไปออกทะเล  แต่ทราบว่าที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาเนื่องจากการรถไฟไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่  ทำให้โครงการหยุดชะงัก

“ ก่อนมอบโครงการนี้ให้ อบต.รองผู้ว่าฯ ที่รักษาราชการแทนผู้ราชการจังหวัด โยธาจังหวัด  ควรตอบกับประชาชนให้ชัดเจนว่าการใช้งบแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือไม่  หลังจากมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาสำรวจออกแบบและมีการอนุมัติงบทำโครงการ ระหว่างที่ผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง ทำไมจึงถูกการรถไฟฯ ทักท้วงไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่

จากนั้น ได้โยกงบที่เหลือไปวางท่อใต้ถนนอ้างรับน้ำจากลำห้วยร่องทศกัณฑ์ผันไปทางทิศเหนือหลังสถานีตำรวจทางหลวง   แต่ข้อเท็จจริงจุดที่รับน้ำห่างจากลำห้วยมากกว่า 1 กิโลเมตร ด้านหน้าโครงการที่วางท่อเป็นที่ดินโฉนดแปลงใหญ่  นอกจากนั้นในลำห้วยยังมีการนำพื้นที่ไปออกเอกสารสิทธิ์” จ่าอากาศเอกเสกสรรค์  กล่าว

** สำหรับกรณีนี้ อยู่ระหว่างรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนความคืบหน้าทางสำนักข่าวจะนำเสนอในโอกาสต่อไป **

** สุรยุทธ ยงชัยยุทธ รายงาน