ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ
กรณีชาวบ้านหมู่ 2 บ้านฟ้าประทาน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าละอู หนองพลับ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางสาธารณะเพื่อยุติข้อพิพาท หลังจากเจ้าของแปลงที่ดินข้างเคียง ได้สวมสิทธิ์ผู้ถือสิทธิครอบครองที่ดิน 7 ไร่ โดยอ้างว่ามีนายทุนจากนอกพื้นได้เข้ามาสวมสิทธิในที่ดิน โดยผู้ร้องมีที่ดิน 5 ไร่ 86 ตารางวา แต่ต่อมาถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่ให้ร่นแนวระยะที่ดินที่ติดกับทางสาธารณะ เพื่อให้นายทุนได้ที่ดินครบ 7 ไร่ ตามข้อตกลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ดินที่ทำสัญญาสวมสิทธิไม่ครบ 7 ไร่ ทำให้นายทุนใหญ่ไม่ใพอใจ
วันที่ 2 มิถุนายน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ฝ่ายปกครองอำเภอและองค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) มีหน้าที่ดูแลทางสาธารณะประโยชน์ ขณะนี้ได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงเพื่อยุติปัญหา หากพบการกระทำความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุที่ ที่กรมธนารักษ์มอบให้ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ (ศร.) ใช้เป็นเขตปลอดภัยทางทหาร และ อยู่ในโครงการตามพระราชประสงค์
“การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการที่ดิน หรือกรรมการที่เกี่ยวข้อง ควรนำหลักฐานเดิมไปตรวจสอบ หากมีรูปแผนที่หรือพิกัด จีพีเอส ที่กำหนดทางสาธารณะที่กรมธนารักษ์ หรือ ศร.ได้ทำการรังวัดแนวเขตของเขตที่ดินไว้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายควรไปตรวจสอบพื้นที่จริงที่มีข้อพิพาท ส่วนการนำที่ดินในโครงการฯไปสวมสิทธิ หากพบว่ามีหลักฐานก็ต้องดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ครอบครองตามเงื่อนไขที่กำหนด “ นายพลกฤต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีชาวบ้านร้องเรียนการก่อสร้างอาคารหรูลักษณะคล้ายรีสอร์ท ริมแม่น้ำปราณบุรี ที่หมู่ 9 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ สามารถดำเนินการได้หรือไม่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในอำนาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่น จะต้องอนุญาตให้ก่อสร้าง เนื่องจากอยู่ในที่ดินราชพัสดุ นายพลกฤต กล่าวว่า ต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลที่ดิน เพื่อตรวจสอบว่ามีการทักท้วงและดำเนินการอย่างไรกับผู้ก่อสร้าง สาระบบที่ดินได้มาอย่างไร อบต.อนุญาตให้ก่อสร้างหรือไม่
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากมณฑลทหารบกที่ 15 (ม.ทบ.15) ระบุว่า ได้ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารหรูมูลค่าหลายร้อยล้านบาทของเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ที่ หมู่ 9 จากนั้นได้รายงานให้หน่วยงานที่ดูแลที่ราชพัสดุ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบแล้วหลายเดือน ก่อนมีการเลือกตั้งนายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วหรือไม่
“จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ขณะนั้น แจ้งว่ายังไม่มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร หากปัจจุบันยังไม่มีการยื่นขออนุญาต นายก อบต.ก็ควรสั่งตรวจสอบและระงับการก่อสร้างอาคาร หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เนื่องจากขณะนี้มีเครือข่ายนักการเมืองก่อสร้างรีสอร์ทหรูในที่ดินตามประราชประสงค์ ซึ่งผิดเงื่อนไขในการใช้ที่ดินทำกินเพื่อทำการเกษตรอย่างชัดเจน “
ด้านคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเศรษฐกิจไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีชาวบ้านอีกหลายรายที่ป่าละอู ที่ครอบครองที่ดินแปลงเดิม แต่ถูกข่มขู่จากแก็งนายทุน นายหน้าค้าที่ดินเพื่อขอแบ่งที่ดินเพิ่มและมีการรุกทางสาธารณะ ทั้งที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชน ขณะนี้ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานร้องเรียนถึง สำนักพระราชวัง สำนักงานองคมนตรี คณะกรรมการ ปปช. และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน
เพื่อขอให้ตรวจสอบผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินในโครงการตามพระราชประสงค์และปัญหาจากการใช้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริ พระราชทานที่ดินทำกินให้เกษตรกรที่ยากจน โดยห้ามขาย โอนสิทธิให้แก่ผู้อื่นใน 6 หมู่บ้านของ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาผู้ครอบครองสิทธิบางส่วนนำไปซื้อขายเปลี่ยนมือ เนื่องจากหน่ายงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้สนใจตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่
/////////////////////////////////////////