รวบญาติอดีต สจ.คนดังเมืองประจวบฯค้าพม่าเถื่อน

แชร์ข่าวนี้

ภาพ-ข่าว สุรยุทธ ยงชัยยุทธ

เมื่อเวลา 23.30  น.วันที่   16 กรกฎาคม 2565   นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายณัฐวุฒิ จันทร์แก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ อส.ปฏิบัติหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฯ เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.จงอางศึก ตชด 146  จับกุมผู้ต้องหา 8  คน มีผู้ต้องหาคนไทย 3 ราย ช่วยเหลือซ่อนเร้นชาวเมียนมา  ซึ่งมีนายสมชาย หรือ บูรณ์ พุ่มพวง ญาติอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ ) ชื่อดังรายหนึ่งรวมอยู่ด้วย   และจับกุมชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง 5 คน  บริเวณถนนสาธารณะภายในหมู่บ้าน สายช่องสิบศพ บ้านหนองขาม หมู่ 3 ต.เกาะหลัก อ.เมือง์  จากนั้นยึดรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒม  9443 กทม.  พร้อมนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ ดำเนินคดี

สำหรับการจับกุมผู้นำพาแรงงานเถื่อนที่มีเครือญาตินักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง   พบว่าเมื่อเวลา  05.00  น. วันที่  25 พฤษภาคม  2565  เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 46 คน เป็นชาย 28 คน  หญิง 18 คน บริเวณสวนมะพร้าว  ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ  โดยผู้หลบหนีเข้าเมืองลักลอบข้ามแดนไปทำงานที่ กทม  จ.สมุทรสาคร

หลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งได้ส่งคลิปภาพระหว่างการเข้าควบคุมตัวแรงงานเถื่อนให้กับสื่อมวลชนเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีข้อความระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานชาวเมียนมาร์ 46 คน ลักลอบเข้าเมืองจากช่องทางธรรมชาติ ต่อมาพบว่าไปกบดานออยู่ในแคมป์คนงานที่เก็บอุปกรณ์และเครื่องมือก่อสร้างของเครือข่ายนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งใน  ต.เกาะหลัก โดยจุดดังกล่าวห่างจากช่องทางธรรมชาติ 11 กิโลเมตร จึงเข้าไปตรวจสอบพบแรงงานเถื่อนแอบอยู่ในแคมป์ตามคลิปที่ปรากฏ   แต่ต่อมามีการนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปถ่ายภาพบันทึกการจับกุมภายในสวนมะพร้าว บริเวณใกล้เคียง เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา

จากการตรวจสอบภาพจากคลิปในแคมป์คนงานและภาพถ่ายในบันทึกการจับกุมในสวนมะพร้าว พบว่าแรงงานชาวเมียนมาร์ที่บันทึกภาพการจับกุมในสวนมะพร้าวแต่งกายชุดเดียวกันกับการเข้าควบคุมตัวที่แคมป์คนงาน

ทั้งนี้  มีรายงานว่า  ด้านหน้าแคมป์คนงานดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด  ห่างจากเขตชุมชนที่มีหน่วยงานราชการและประชาชนอาศัยหนาแน่นเพียง 300  เมตร   ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมแรงงานงานเถื่อนหากมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาในแคมป์คนงานตามคลิปที่ปรากฎ  เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ให้ที่พักพิงกับแรงงานด่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

////////////////////////////