พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายคดีเกาะหลีเป๊ะ-เร่งดำเนินคดีผู้บุกรุกพื้นที่และรังวัดพื้นที่ให้ชัดเจน !!

แชร์ข่าวนี้

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายคดีเกาะหลีเป๊ะ-เร่งดำเนินคดีผู้บุกรุกพื้นที่และรังวัดพื้นที่ให้ชัดเจน !!

นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 29ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ตามที่ ภาคประชาชนได้เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้กำกับดูแลและเร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาท โดยใช้การบังคับใช้กฎหมายนำการเจรจา ใช้การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมการปกครอง กรมธนารักษ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำเอาพื้นที่ถนนที่ประชาชนใช้ในการสัญจรคืนกลับมาให้กับชุมชนได้ นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อแก้ไขการพิพาทเรื่องที่ดินให้ถูกต้อง รวมทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของชาวเลในพื้นที่เช่น การทำประมงพื้นบ้านในพื้นที่อุทยาน การตรวจสอบรังวัดที่ดินที่ถูกรุกล้ำเพื่อคืนพื้นที่ให้กับชาวบ้าน เป็นต้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (18 เม.ย.66) เวลาประมาณ 16.00 น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล พร้อมด้วย กรมการปกครอง กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ โดยมีการติดตามการดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายในการรังวัดที่ดินตามโฉนดแปลงเลขที่ 2 4 5 7 10 11 ซึ่งมีปัญหาข้อพิพาทกับชาวบ้าน ชุมชนชาวเล และนายทุน ซึ่งบางแปลงนายทุน ได้มีการฟ้องร้องคดีกับทางชาวบ้านในพื้นที่ โดยได้สั่งการให้ดำเนินการติดตามเจ้าของมาแสดงตนในทุกๆแปลง และดำเนินการรังวัดที่ดินเพื่อให้ได้ขอบเขตแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน มิให้มีปัญหาพิพาทใหม่เกิดขึ้นอีก โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 1 เดือน รวมทั้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับโรงแรมและผู้ประกอบการที่มีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ รวมทั้งสถานที่ที่ก่อสร้างผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคารฯ ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้วนั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จะทำให้ผู้บุกรุกสามารถดำเนินการสร้างอาคารจนทำให้เกิดปัญหาลุกลามในปัจจุบันได้ โดยมีคดีบุกรุกที่ดินอุทยานจำนวน 8 คดี และคดีความผิดตาม พ.ร.บ.อาคารฯ อีกถึง 108 คดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ อบต.จะเร่งดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ให้ครบโดยเร็ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นอกจากความคืบหน้าในแจ้งการบังคับคดีให้กับสถานที่ที่ต้องมีการรื้อถอนทราบตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วนั้น ในวันนี้ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบเขตแดนของที่ดินแปลงต่างๆ ที่เป็นข้อพิพาทอยู่ โดยกรมอุทยานฯและกรมที่ดิน จะเร่งเชิญเจ้าของที่ดินแปลงต่างๆ มาร่วมรังวัดที่ดิน เพื่อออกโฉนดให้ชัดเจน โดยจะทำให้เสร็จภายในเวลา 1 เดือน นอกจากนี้ ยังติดตามความคืบหน้าของการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่และสถานประกอบการที่สร้างอาคารผิดขั้นตอนตาม พ.ร.บ.อาคารฯ ซึ่งทาง อบต. ได้เร่งดำเนินการไปแล้วประมาณ 50 คดี และกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมให้ครบทั้ง 108 ราย ทั้งนี้หลังจากดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว จะทำให้ภาพรวมของที่ดินพิพาทมีความชัดเจนขึ้น และสามารถวางแนวทางแก้ไขในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวเกาะหลีเป๊ะทั้งหมด

///////////////////////////////