ประจวบคีรีขันธ์-โยธาฯเร่งหาเจ้าภาพใช้งบติดตั้งเสาไฟสับปะรดริมอ่าวประจวบฯต้นละ 8 หมื่น หลังพบเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นนำเสาไฟไปขายร้านของเก่าราคาหลักร้อย (คลิป)**สุรยุทธ ยงชัยยุทธ รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

วันที่  7  กรกฎาคม จ่าอากาศเอกเสกสรรค์  จันทร แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์   เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 กรกฎาคม จะไปสอบถามข้อเท็จจริงจากสำนักงานโยธาธิการจังหวัดประจวบฯ  สำนักงานจังหวัดประจวบฯ  สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด  หรือหน่วยงานใดที่ร่วมกันใช้งบจัดซื้อเสาไฟโคมไฟสับปะรดราคาต้นละ 8 หมื่นบาท มีการติดตั้งมากกว่า 200  ต้น ที่สันเขื่อนริมอ่าวประจวบฯ ตั้งแต่หน้ารั้วกองบิน  5  ถึงชุมชนม่องล่าย ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า  มีเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่น( อปท.) แห่งหนึ่ง นำรถกระเช้าสีส้มบรรทุกซากเสาไฟเหล็กเคลือบ น้ำหนักหลายสิบกิโลกรัมไปจำหน่ายในราคาไม่กี่ร้อยบาท  ที่ร้านรับซื้อของเก่า “ แก้วสุวรรณรีไซเคิล”  ถนนสุขสมบูรณ์ ในเขตเทศบาลเมือง โดยผู้ซื้อ จ่ายเงินให้ผู้ขายตามปกติ ไม่ทราบว่าเสาไฟฟ้าดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานราชการแห่งใด

จ่าอากาศเอกเสกสรรค์  กล่าวอีกว่า ต้องติดตามว่าโยธาธิการจังหวัด หรือหน่วยงานใดเป็นเจ้าของงบ  จากนั้นจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ อปท.หลายราย  เนื่องจากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายลักทรัพย์ในคดีอาญา และจะต้องขอให้สำรวจเสาไฟที่เหลือให้มีจำนวนตรงกับการใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชน   หากสูญหายต้องชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจน   หากปกติหากเจ้าหน้าที่ในเขตเทศบาลพบเสาไฟที่ชำรุดจะต้องจัดเก็บเพื่อส่งมอบให้หน่วยงานเจ้าของงบประมาณ เนื่องจากหลายหน่วยงานที่ใช้งบสร้างนานกว่า 10 ปี   แต่ไม่มีงบซ่อมและบำรุงรักษา  ปัจจุบันเสาไฟดังกล่าวจึงอยู่ในสภาพชำรุดแทบทั้งหมด ระบบไฟฟ้าบางจุดชำรุดถาวร เนื่องจากบางช่วงมีการลักสายไฟฟ้าไปขาย  ขณะที่บางจุดมีปัญหาเสาไฟฟ้าหักโค่น เคยมีกระแสไฟรั่วช๊อตประชาชนและนักท่องเที่ยว

แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค  กล่าวว่า  หลายภาคส่วนเรียกร้องให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  รื้อเสาไฟโคมไฟสับปะรดต้นละ 8 หมื่นบาท ออกไปจากสันเขื่อนริมอ่าวประจวบฯ เพื่อให้มีความปลอดภัยไม่มีไฟช๊อต หรือ เสาไฟล้มทับประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันเสาไฟดังกล่าว 90%อยู่ในสภาพชำรุด และ ส่วนใหญ่ไม่มีแสงสว่าง  จึงไม่มีประโยชน์ที่จะนำไปติดตั้งให้เป็นทัศนอุจาดประจานความล้มเหลวในการใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่ออ้างว่าส่งเสริมการท่องเที่ยว

ด้านนายสุวิทย์ พลเสน โยธาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  กล่าวว่า ที่ผ่านมาเสาไฟดังกล่าวโยธาฯทราบว่าเป็นผู้ออกแบบ ประมาณการราคาในการจัดซื้อ แจ้งสถานที่ติดตั้ง แต่ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดจัดซื้อในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา   เนื่องจากตั้งแต่มารับตำแหน่ง ยังไม่ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการทำโครงการไว้อย่างไร  หากทราบว่ามีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของงบหรือเจ้าของทรัพย์สิน ก็จะต้องแจ้งให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

///////////////////////////////////////////////////////////