สระบุรี พ่อ แม่ขุดศพลูกน้อยวัย 3 ขวบผ่าพิสูจน์ใหม่ร้องขอความเป็นธรรมคดีไม่คืบ
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา แม่คาใจพาลูกชาย 3 ขวบ ส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่สระบุรี หลังลูกมีอาการหอบ หมอตรวจบอกหลอดลมอักเสบ พ่นยาแล้วให้กลับบ้าน แต่เด็กกลับอาการหนักเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ต้องพาส่งรพ.อีกรอบ สุดท้ายหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต คราวนี้หมอระบุ ปอดอักเสบ ซึ่งแม่ของเด็กชายวัย 3 ขวบ ได้ลงเฟซบุ๊ก ชื่อ Patchayawee Poosuk ระบุ #เหตุการณ์วันที่น้องไม่อยู่กับแม่แล้ว น้องไฮเทคเป็นหวัด แต่อาการหายจากหวัดแล้ว ต่อมาน้องมีอาการซึม มีไข้อ่อนๆ หายใจหอบ พาน้องไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอแจ้งว่า น้องมีอาการหลอดลมอักเสบ พ่นยาแล้วกลับบ้านได้ กลับมาบ้านน้องมีอาการหนักนำกลับไปที่โรงพยาบาลอีกรอบไม่คิดว่าน้องจะเสียชีวิต #เสียลูกไปไม่มีวันกลับเพราะการตรวจไม่ละเอียดงั้นหรือ
โดยว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ ภู่สุข อายุ 25 ปี พร้อมสามี ซึ่งเป็นพ่อของ ด.ช. วรายุทธ์ บาศรี หรือน้องไฮเทค อายุ 3 ขวบ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกชายไปทั้งๆ อายุยังน้อย โดยช่วงเย็นวันนี้จะทำพิธีบรรจุศพน้องไฮเทคที่วัดเขาน้อย ยังไม่เผาเนื่องจากยังทำใจไม่ได้ โดยว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ กล่าวต่อว่า วันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. ช่วงเช้าตนกับสามีได้พาน้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี เพราะน้องมีไข้ต่ำๆ ไปถึงโรงพยาบาลหมอตรวจแล้วบอกว่า น้องไฮเทคมีอาการหอบ และนำตัวไปพ่นยา โดยหมอบอกว่ามีอาการหลอดลมอักเสบ อาการไม่หนักและไม่ต้องเอกซเรย์ปอด
จากนั้นหมอให้ยาและให้กลับบ้านได้ ต่อมา ช่วงเที่ยงคืนวันเดียวกันน้องไฮเทคมีอาการหอบหนักและสปริงตัวเด้งขึ้นมา ตนกับแฟนจึงพาลูกกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง เวลาผ่านไปสักพักหมอเดินออกมาบอกที่หน้าห้องว่า น้องหัวใจหยุดเต้น ต้องปั๊มหัวใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนไม่คิดเลยว่าพาลูกชายมาหาหมอในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย โดยหมอระบุสาเหตุการเสียชีวิตของน้องไฮเทค คือ ปอดอักเสบ จึงอยากให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงและรับผิดชอบบ้าง ชีวิตคนทั้งคน และตลอดการสวดพระอภิธรรมทางโรงพยาบาลไม่ได้มาร่วมงานเลย แม้กระทั่งพวงหรีดก็ไม่มีมา
ล่าสุดวันนี้ว่าที่ ร.ต.หญิงพัชญาวีร์ ภู่สุข อายุ 25 ปี และว่าที่ ร.ต.ปริญญา บาศรี อายุ 28 ปี สามี พร้อมด้วยทนายอาลัยรัก วรวัฒน์ ทนายความสำนักงานทนายความบ้านบุบผา ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหนังสือ ขอส่งตรวจพิสูจน์สาเหตุการตาย และขอรับศพเอเสร็จสิ้นการตรวจพิสูจน์ เพื่อนำไปยื่นต่อ รพ.สระบุรี ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า 9 เดือนแล้วคดีมีความคืบหน้า และทางโรงพยาบาลไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบไดๆ
จากนั้นจึงได้เดินทางไปยังวัดเขาน้อย ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูสระบุรี ร่วมทำการขุดร่างของน้อง ไฮเทค โดยมี ร.ต.ท.สรวีย์ แจ่มแจ้ง ร้องเวร สภ.เมืองสระบุรี และทนายอาลัยรัก วรวัฒน์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ปริญญา บาศรี (พ่อ) ว่าที่ ร.ต.หญิงพัชญาวีร์ ภู่สุข (แม่) ร่วมสังเกตการณ์ โดยก่อนทำการขุดทางด้าน ร.ต.ปริญญา บาศรี (พ่อ) ว่าที่ ร.ต.หญิงพัชญาวีร์ ภู่สุข (แม่) ได้ทำการจุดธูปบอกกล่าวกับร่างของน้อง ไฮเทค จากนั้นเหน้าที่ร่วมกตัญญู จึงได้ใช้ฆ้อนทุบไปที่บรรจุร่างน้อง ไฮเทค และนำร่างออกมา เพื่อนำส่ง รพ.สระบุรี ผ่าพิสูจน์อีกครั้ง ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
ทางด้านว่าที่ ร.ต.หญิงพัชญาวีร์ ภู่สุข กล่าวว่า วันนี้ได้ทำการขุดร่างของน้องไฮเทค เพื่อขอความเป็นธรรม โดยจะนำร่างไปผ่าพิสูจน์อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าน้องเสียชีวิตด้วยสาเหตุได เนื่องจากว่าเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาน้องมีอาการไข้ หอบ และซึม ตนเอง และจึงได้พาลูกชายไปยัง รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี โดยหมอได้แจ้งว่าน้องมีอาการหลอดลมอักเสบ ตนจึงถามกลับไปว่า หลอดลมอักเสบ กับปอดอักเสบ อาการคล้ายกันหรือเปล่า หมอบอกว่าเหมือนกัน แต่น้องไม่ได้เป็นปอดอักเสบ คือไม่ต้องเอ็กซเรย์ ให้พ่นยา และกลับมาพักผ่อนที่บ้าน จากนั้นก็ให้ใบนัดแพทย์มาให้ไปพบแพทย์ในวันที่ 1 ก.พ. ให้ไปหาอีก 1 รอบเพื่อตรวจดูอาการ และในวันที่ 30 ม.ค. ช่วงเวลาตี 1 ตนได้พาน้องไฮเทค ไป รพ.เดิมอีกครั้ง
โดยหมอแจ้งกลับมาว่าน้องมีอาการหนักมาก ทำไมเพิ่งพามาหาหมอ ตนเองได้แจ้งกลับไปว่า ตนได้พามาแล้ว 1 รอบ จากนั้นลูกของตนก็ได้เสียชีวิต โดยทาง รพ.แจ้งกลับมาว่าลูกของตนเสียชีวิตเกิดจากปอกอักเสบ ซึ่งตอนที่ตนเองพาลูกไปยังห้องฉุกเฉินลูกของตนเองยังมีสติดีอยู่ แต่พอเข้าไปหมอได้ให้ตน และแฟนออกมารอด้านนอก และช่วงตอนตี 3 หมอได้มาแจ้งว่าลูกชายของตนเสียชีวิตแล้ว เกิดจากสาเหตุปอดอักเสบ ซึ่งตอนแรกบอกว่าเป็นหลอดลมอักเสบ ซึ่งเวลาก็ผ่านมานานแล้วตนเองยังไม่ได้รับการติดต่อจากทาง รพ.แต่อย่างไร ซึ่งที่ตนเองนำศพลูกชายไปผ่าพิสูจน์อีกครั้ง เพื่อที่จะให้ รพ.ออกมาชี้แจง และรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตนได้สูญเสียลูกชายไป เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตนเอง
ทางด้านทนายอาลัยรัก วรวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความกับเจ้าพนักงานสอบสวน จ.สระบุรี เนื่องจากการเสียชีวิตของผู้เสียหาย ที่เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายติดใจในเรื่องสาตุการตายของลูกชาย และได้แจ้งไปยังสาธารณสุข จ.สระบุรีช่วยประสานเรื่อง ได้รับการเสียหายจากการรักษาพยาบาล ของรพ.เอกชน ซึ่งทางสาธารณสุข ได้ไปตรวจสอบ รพ.ดังกล่าว และนำเรื่องไปส่งยังแพทยสภาเพื่อให้พิจารณา ส่วนพนักงานสอบสวนทางผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปยังแพทยสภาแล้วเหมือนกัน แต่เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสอบเอกสารปรากฏว่าไม่มี ผลชันสูตรพลิกศพ ของเจ้าพนักงานสอบสวน กับแพทย์นิติเวช ศาสตร์ เพื่อที่จะลงรายงานการเสียชีวิต ด้วยเหตุผลที่แน่นอน ไม่ใช่ตามความเห็นแพทย์ตามบริษัทคู่กรณี ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน ก็ได้รับเรื่อง และมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และนำศพของน้องเพื่อที่จะไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.สระบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง เพื่อนำไปขอยื่นต่อแพทยสภา ขอระงับการพิจารณาไว้ก่อน เพื่อรอผลการผ่าชันสูตรพลิกศพของเจ้าพนักงานสอบสวน และแพทย์นิเวชศาสตร์
** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน
