สระบุรี-คุมตัวคนร้ายกดหัวชิงทรัพย์แม่ค้าพิการขาขาดทำแผนชาวบ้านรอ ผู้เสียหายไม่ให้อภัย **ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

วันที่ 10 ก.ค.65 จากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมากล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ขี่จักรยานยนต์ บุกเข้าไปกดหัว นาง สมจิตร ศรีชัย อายุ 55 ปีแม่ค้าขายของพิการขาขาดชิงทรัพย์ ได้เงินสดไป 1,100 บาท พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่องจากนั้นได้ขับรถหนีออกไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.สระบุรี และสืบสวนเมืองสระบุรีพร้อมด้วยสืบสวน อ.แก่งคอย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี จนสามารถสืบทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ ได้หลบหนีไปยังบ้านเลขที่ 100/6 ถนนสุดบรรทัดซอย 15 ชุมชนเขาคูบา ซ.7 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้น พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซุกิ สตริงเกอร์ สีขาว เขียว ล้อสีทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และเสื้อผ้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จับกุมทราบชื่อคนร้าย นาย สันติชัย หรือต่อ คัมภิรานนท์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ในชุมชนเขาคูบา  อ. เมือง จ.สระบุรี  ซึ่งนายต่อยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนร้ายที่เข้าไปกดหัวแม่ค้าพิการขาขาด แล้วชิงทรัพย์ และยอมรับว่าได้ก่อเหตุในวันที่เติมน้ำมันและให้ยึดโทรศัพท์ไว้ก็เป็นตนเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปตรวจสารเสพติดพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งมีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว ส่งยัง ร.ต.อ.อภิชัย รัตนะศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.แก่งคอย เพื่อที่จะดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตังข้อหาเสพยาเสพติด ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายทำให้เกิดเป็นอันตรายแก่ร่างกาย และจิตใจ

ประวัตินาย สันติชัย หรือต่อ คัมภิรานนท์ เคยก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักยานยนต์ในพื้นที่ อ.แก่งคอย เมื่อปี 56 และถูกจับศาลตัดสินจำคุก 7 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 61 จากนั้นได้เข้าทำงานโดยรับจ้างทาสีในโรงงาน และเมื่อไม่มีงานก็จะออกมาก่อเหตุในพื้นที่ อ.หนองแค อ.แก่งคอย อ.เมือ จ.สระบุรี ซึ่งส่วนมากจะก่อเหตุในการชิงทรัพย์

ช่วงเวลาประมาณ 14.40 น. ร.ต.อ.อภิชัช รัตนะศรี รอง สว.สอบสวน สภ.แก่งคอย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวนแก่งคอย  ควบคุมตัว นาย สันติชัย หรือต่อ คัมภิรานนท์ อายุ 35 ปี  คนร้ายจี้ชิงทรัพย์แม่ค้าพิการขาขาด ได้เงินไป 1,100 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวน นาย ต่อ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เนื่องจากว่ารถน้ำมันหมด ต้องการนำเงินไปเติมน้ำมันรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผน ยังบ้านเลขที่ 14/1 ม.10 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่คนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุโดยมีชาวบ้านเพื่อนบ้านผู้เสียหาย มายืนการทำแผน  เมื่อผู้ต้องหามาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวไปทำแผนโดยสวมชุดเสื้อผ้า หมวกกันน็อก ที่ใส่ในวันก่อเหตุ  ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ  15  นายคอยเฝ้าระวังในการทำแผนในครั้งนี้ กลัวญาติพี่น้อง และประชาชนแถวนั้นจะเข้ามาทำร้ายตัวนายต่อ ผู้ต้องหา เมื่อไปเผชิญหน้ากับนาง สมจิตร ศรีชัย ป้าผู้พิการขาขาด มีอาการโกรธเห็นได้ชัดการสอบถามของนางสมจิตรว่า ทำทำไม  และจะทำร้ายกดศีรษะตนเองทำไมทั้งที่ได้เงินไป  นายต่อ ผู้ต้องหากล่าวว่าไม่ได้จะทำร้ายนางสมจิตรแม้กระทั่งกดหัว  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกเพื่อทำแผน  และจุดที่นายต่อนำโทรศัพท์ไปโยนทิ้งที่บริเวณ ริมแม่น้ำป่าสักในตัวเมืองสระบุรี  จากการสอบถามนายต่อ ผู้ต้องหา สารภาพว่า ทำจริง แต่ไม่ได้กดหัวป้า เอาแต่เงินไป เพราะว่ารถน้ำมันหมด อยากจะได้เงินไปเติมน้ำมันแล้วไปสมัครงาน  ส่วนเงินที่เหลือไม่ได้ไปซื้อยาเสพติดเลย อยากขอโทษป้า ที่ไม่ได้เจตนาทำครับ

จากการสอบถามนางสมจิตรกล่าวว่า ตนเองดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. แก่งคอย  และชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี สามารถจับกุมได้ ตนเองก็ยังมีอาการที่ยังระแวง หรือ จำภาพที่ติดตาได้นอนไม่ค่อยหลับ แต่วันนี้นอนหลับแล้ว เพราะว่าจับได้แล้ว ตนเองไม่อโหสิผู้ต้องหาหรอก เพราะว่า ยังหนุ่มยังแน่น มีมือมีเท้า ทำไมไม่ทำมาหากิน เหมือนคนอื่น   ตนเองอยากได้เงินคืนมากกว่า เพราะว่าเงินร่วม  1 พันบาท ปัจจุบันนั้นหาอยาก ขอบคุฯตำรวจมาก ๆๆเลย

จากนั้นร้อยตำรวจเอกสว่าง คุณนาเมือง รองสารวัตรสืบสวนสภ. แก่งคอย  จากการลงพื้นที่พบว่า นายต่อเคยก่อเหตุเมื่อช่วงปี 2556 จำคุก7  ปี แล้วออกมาแล้วก่อเหตุ  และรูปพรรณสันฐานก็เหมือนนายต่อ จึงลงพื้นที่ประสานกับสืบเมืองสระบุรี ไปจับกุมเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้ที่ชุมชนเขาคูบา  อ. เมืองสระบุรี  พบหลักฐานเสื้อผ้า รถ จยย.  หมวกกันน็อกตามกล้องวงจรปิด ที่เห็นในคลิปโลกโซเชียล  นายต่อรับสารภาพ   เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม  ส่วนข้อหาอื่น ๆๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลต่อไป

//////////////////////////////////////////

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน