สระบุรี  สปสช.เขต 4- สสจ.สระบุรี” ห่วงใยประชาชนเดินทางปีใหม่  ย้ำเจ็บป่วยฉุกเฉิน “ บัตรทอง”รักษาได้ทุกที่ไม่ต้องสำรองจ่าย** ชาญวิทย์  คำนวนวุฒิ  รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี  สปสช.เขต 4- สสจ.สระบุรี” ห่วงใยประชาชนเดินทางปีใหม่  ย้ำเจ็บป่วยฉุกเฉิน “ บัตรทอง”รักษาได้ทุกที่ไม่ต้องสำรองจ่าย

ตามนโยบาย “หมอชลน่าน” รมว.สธ. ห่วงใยประชาชนสิทธิบัตรทองเดินทางช่วงปีใหม่ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ตามนโยบาย UCEP ส่วนกรณีเจ็บป่วยไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่จำเป็นต้องรับการรักษา ให้ใช้สิทธิรักษา มาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือเข้ารักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่ เจ็บป่วยเล็กน้อยปรึกษาเภสัชกรและรับยาที่ร้านยาได้ ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิบัตรทอง รับบริการรักษาผ่าน 4 ช่องทาง ไม่เสียค่าใช้จ่าย จังหวัดสระบุรีเป็นประตูสู่อีสาน และภาคเหนือ ช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีประชาชนเดินทางมาก ดังนั้น นายแพทย์ สสจ.สระบุรีและ รพ.สระบุรี จึงเตรียมความพร้อมวางระบบรองรับอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉินบนท้องถนนและผู้สัญจร ให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็ว ลดอัตราความรุนแรงและการเสียชีวิต

วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี โดย นพ.สาธิต ทิมขำ  ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 4 สระบุรี  นพ.กฤษณ์ สกุลแพทย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี  พญ.จิรวรรณ  อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสระบุรี ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกับสื่อมวลชน ถึงนโยบายเจ็บป่วย “ฉุกเฉินวิกฤต” รักษาทุกที่ “โดยไม่ต้องสำรองจ่าย” (UCEP) เพื่อให้สื่อมวลชนและเครือข่ายด้านประชาสัมพันธ์ได้เผยแพร่นโยบายต่อสาธารณะ มีสื่อมวลชนท้องถิ่น และมีนายธีระชัย มังกรทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัด เข้าร่วมรับฟังรวมกว่า 20 องค์กร

นพ.สาธิต ทิมขำ  ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 4 สระบุรี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ที่มีวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 1 มกราคม 2567 ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางต่างจังหวัดเพื่อกลับบ้านหรือเยี่ยมเยียนครอบครัว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะบอร์ด สปสช. ได้สั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิบัตรทอง 30 บาท หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล  สามารถการเข้ารับบริการได้ 2 กรณี ดังนี้

1.กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติถึงแก่ชีวิต หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยยื่นเพียงบัตรประชาชนใบเดียวและแจ้งใช้สิทธิ UCEP ซึ่งจะเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับสิทธิ UCEP ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาจนพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย โดยเมื่อพ้น 72 ชั่วโมง จะส่งรักษาต่อที่หน่วยบริการประจำ โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร. สายด่วน 1669 ได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ 6 อาการที่เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤต ประกอบด้วย 1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 4.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุดและ6.มีอาการอื่นร่วม ที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมอง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากป่วยฉุกเฉินแต่ ‘ไม่วิกฤตถึงแก่ชีวิต’ สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐที่ใกล้ที่สุด โดยยื่นเพียงบัตรประชาชนใบเดียวและแจ้งใช้สิทธิบัตรทองหรือสิทธิ 30 บาท

2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ฉุกเฉินระดับวิกฤติ หรือผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง ไข้หวัด ปวดท้อง เคืองตา ทำแผลต่อเนื่อง ตัดไหม หรือยาหมด (ต้องกินยาต่อเนื่องแต่ยาหมดระหว่างเดินทางไปต่างพื้นที่ มาขอรับยาได้) ฯลฯ สามารถเข้ารักษาได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.สต., สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชน, โรงพยาบาลประจำอำเภอ, หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาลประจำจังหวัด รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และคลินิกชุมชนอบอุ่น โดยยื่นบัตรประชาชนและแจ้งใช้สิทธิบัตรทอง

3.กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย สปสช.ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข เพิ่มบริการให้ประชาชนมีความสะดวกมากขึ้นดังนี้

เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ ยื่นบัตรประชาชนใบเดียว ปรึกษาเภสัชกรและรับยาได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ทั่วประเทศ ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสังเกตสติกเกอร์ “ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย” หรือดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมได้ที่

https://www.nhso.go.th/downloads/204

เจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ ยื่นบัตรประชาชนใบเดียว เข้ารักษาโรคเบื้องต้นตามขอบเขตวิชาชีพได้ที่คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่นกว่า 600 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ สังเกตสติกเกอร์ คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น

เจ็บป่วยเล็กน้อย 42 อาการ หากอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) มีที่อยู่ให้จัดส่งยาได้ พบหมอออนไลน์ รอรับยาที่บ้านผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพ 4 ช่องทาง ดูรายละเอียดที่ https://www.nhso.go.th/news/4078

นพ.สาธิต กล่าวต่อว่า ส่วนประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการหรือเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับบริการรับยาที่ร้านยา, บริการโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และบริการปฐมภูมิทุกที่ได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขอให้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิ โดย สปสช. ยังคงสิทธิประโยชน์บริการเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดอย่างต่อเนื่อง ดูรายละเอียดที่ https://www.nhso.go.th/news/3674

** ชาญวิทย์  คำนวนวุฒิ  รายงาน