สระบุรี คนร้าย 2 ผัวเมียบุกงัดตู้เติมเงิน และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ**ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี คนร้าย 2 ผัวเมียบุกงัดตู้เติมเงิน และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

วันที่ 16 มกราคม 2567 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อSuwat Nukeeree ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปลงในกลุ่ม หนองแคมีดี (รักษ์หนองแค) โดยมีข้อความว่า “ขออนุญาตครับร้านใดที่เคยโดนโจรกรรม แบบร้านผม โดนงัดตู้เติมเงิน และตู้ซักผ้าหยอดเหรียญสามารถขอหลักฐานได้ที่ผมน่าจะทำมาแล้วหลายที่ครับในเขตหนองแค และอำเภอข้างเคียงคนร้ายมาสองคน หญิงอายุราวๆ 40-45 ใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้า บ. TTV ชายอายุ 30-35 ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงขาสั้นใช้มอเตอร์ไซด์เวฟสีดำแดง (รอแกะทะเบียน)หากใครทราบว่าเป็นบุคคลใดสามารถแจ้งได้ที่ผมครับ”

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณที่เกิดเหตุบริเวณใกล้สีแยกหนองนาค  ซึ่งมีห้องแถวเปิดเป็นร้านขาย และซ่อมแบตเตอรี่ เลขที่ 2/56 ม.4 ต.หนองนาค อ.หนองแค จ.สระบุรี พบนายสุวัฒน์ หนูคีรี อายุ 37 ปีผู้โพสต์ภาพคนร้ายลงในสื่อโซเชียล โดยนายสุวัฒน์ เล่าว่า คนร้ายได้เข้ามาในช่วงเวลา เที่ยงคืน ของคืนวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยคนร้าย 2 คน (คาดว่าจะเป็นผัว-เมียกัน)ได้เข้ามาที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของนางรุ่งอรุณ สาครแก้ว อายุ 59 ปี ซึ่งอยู่ติดกัน กับร้านของตนเอง

โดยหน้าร้านเปิดเป็นรับซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ด้วยกัน 4 เครื่อง จากนั้นคนร้ายได้เข้ามาเขย่าที่กล่องใส่เหรียญของเครื่องซักผ้า เครื่องแรก จนสามารถเปิดออกได้ และได้เงินไปประมาณ 1,000 กว่าบาท และพยายามจะเขย่าเครื่องอื่นด้วยแต่ไม่สามารถเอาออกไปได้ จากนั้น 2 คนร้ายได้เดินไปที่ตู้เติมเงินของ ร้านขายแบตเตอรี่ ของนายสุวัฒน์ และพยายามจะช่วยกันใช้ไขควงงัดตูเติมเงินให้ได้ จนมีร่องรอยการงัด แต่ไม่สามารถงัดออกได้ ซึ่งถ้าคนร้ายงัดตู้เติมเงินออกได้ภายในมีเงินอยู่เกือบ 1,000 บาท

โดยคนร้ายทั้ง 2 ก่อเหตุอย่างใจเย็นจึงได้ขับรถจักรยานยนต์หนีออกไป โดยคนร้ายทั้ง 2 คนใช้เวลาในการก่อเหตุกว่า 40 นาที ซึ่งตู้เติมเงินของตนเองทีมูลค่ากว่า 30,000 บาท ซึ่งตนเองยังคงต้องผ่อนกับบริษัทอยู่ ยังไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของตน ซึ่งถ้าตู้เสียหายตนก็จะต้องเสียค่าซ่อมตู้ ไหนเงินที่อยู่ในตู้อีกที่จะต้องสูญไป

ทางด้านนางรุ่งอรุณ สาครแก้ว เจ้าของตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ เล่าว่า ประมาณ เที่ยงคืน 10 กว่านาทีของวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมาได้มีคนร้าย 2 คนขี่จักรยานยนต์ สีดำ แดงมาจอดอยู่หน้าร้าน และเมื่อจอดรถแล้ว ผู้ชายจะนั่งอยู่รถจักรยานยนต์ จากนั้นคนร้ายที่เป็นหญิงจะเดินมาที่ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ และเขย่าตรงที่หยอดเหรียญ เนื่องจากตนเองไม่ได้ล็อกกุญแจไว้ ซึ่งคนร้ายเขย่าจนสามารถเปิดได้ และหยิบเงินไป จากนั้นก็เดินมาเขย่าตู้อื่นๆอีก

จากนั้นก็ลงไปนั่งคู่กัน 2 คนผัว เมีย และพยายามเขย่าตู้ต่ออีก ทั้งโยกตู้ไปด้วย โดยก่อเหตุแบบใจเย็น และพยายามจะเดินดูบริเวณรอบๆร้าน โดยการก่อเหตุครั้งนี้คนร้ายได้เงินในตู้เครื่องซักผ้าไปประมาณ 1,000 กว่าบาท ซึ่งตู้ที่คนร้ายเอาเงินไปตนเองยังไม่เคยเปิดเอาเงินออกมาเลย จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คนจึงได้เดินไปงัดตู้เติมเงินต่ออีก นางรุ่งอรุณ กล่าวเสริมว่า ถ้าใครพบเจอคนร้าย 2 ผัวเมียช่วย มาบอกที่ร้านด้วย หรือแจ้งมาตามเบอร์โทรศัพท์ของร้าน ให้ติดต่อมาได้เลย

ซึ่งบริเวณแถวๆนี้เคยเกิดเหตุแบบนี้มาบ่อยครั้งแล้ว และเมื่อช่วงค่ำๆของวันเดียวกันก็มีรถเข็นของชาวบ้านได้หายไปเหมือนกัน จึงอยากฝากบอกเจ่าหน้าที่ตรวจให้ช่วยมาตรวจ แถวนี้บ้าง เมื่อคืนช่วงตี 1 ตี2 ก็มีเสียงหมาเห่านานมาก เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก

**ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน