ประจวบคีรีขันธ์ อุทยานกุยบุรีลาดตระเวนเข้ม จับ2พรานลักลอบเตรียมล่าสัตว์ป่า** พันธ์พงษ์ โพธิ์จินดา รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

ประจวบคีรีขันธ์ อุทยานกุยบุรีลาดตระเวนเข้ม จับ2พรานลักลอบเตรียมล่าสัตว์ป่า

วันที่ 29  ต่อเนื่อง วันที่  30 ธันวาคม 2566 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีนำโดย นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามชุดที่ 2  หัวหน้าน่วยพิทักษ์ที่ กร.3 ด่านสิงขร ได้วางแผนและร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากสืบทราบว่าจะมีการเข้าไปล่าสัตว์ บริเวณป่าหุบจัน หมู่ที่ 12 ตำบลบ่อนอก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลการปฏิบัติปรากฏดังนี้

  1. ขณะที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงบริเวณ พิกัด 47 P 0580883 E 1330118 N จึงได้วางแผนดักซุ่มเนื่องจากบริเวณดังกล่วเป็นช่องทางเข้าไปล่าสัตว์ ในเขตอุทยานแห่งชาติ จนกระทั่งเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 66 คณะเจ้าหน้าที่ได้สังเกตพบชาย 1 คนกำลังวิ่งออกมาชายป่า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและควบคุมตัวไว้ จากนั้นได้นำตัวชายบุคคลดังกล่าวไปตรวจค้นบริเวณป่าที่ชายคนดังกล่าววิ่งออกมา ตรวจค้น พบอาวุธปืนลูกซองเดี่ยวยาวเบอร์ 12 พร้อมเครื่องอาวุธอีก 4 ลูก และอุปกรณ์การยังชีพในป่า ซุกซ่อนอยู่ใต้โคนต้นไม้ สอบถามทราบชื่อนายสมหมาย อาจสัญจร อายุ 62 ปี ที่อยู่ 413 หมู่ที่ 9 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบฯ และได้ถ้อยคำว่า ตนกำลังจะขับจักรยานยนต์เข้าไปเที่ยวป่าล่าสัตว์ในช่วงปีใหม่ จากนั้น ได้สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถแล้ววิ่งเข้าป่าเพื่อนำอาวุธปืนไปซุกซ่อนเพื่ออำพรางความผิด แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ได้ จนถูกจับกุมดังกล่าว
  2. ในวันเดียวกัน เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลา 09.30 น. ในบริเวณเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นชายต้องสงสัยกำลังถืออาวุธปืนเดินออกมาจากป่าจึงได้วางแผนปิดล้อม ตรวจสอบ/และจับกุม จนสามารถควบคุมตัวชายบุคคลดังกล่าว ได้ สอบถามทราบชื่อนายบุญส่ง สุ่มสังข์ อายุ 61 ปี ที่อยู่ 427 หมู่ที่ 9 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบฯ

จากนั้นเจ้าหน้าที่อช.กุยบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อยเพื่อเข้าร่วมจับกุมตามอำนาจหน้าที่และดำเนินเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีกับนายบุญส่งฯ และนายสมหมาย ฯ

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว การกระทำดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดของ นายสมหมายฯ และนายบุญส่งฯ เป็นการกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และกฏหมายอื่น ดังนี้

  1. ฐาน “พยายามล่า สัตว์ป่า สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕62 มาตรา 12 และมาตรา 89
  2. ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับในอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่” ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72

อนึ่ง การปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ได้มอบนโยบายและสั่งการให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ปฏิบัติภารกิจป้องกันคุ้มครองป่าไม้และสัตว์ป่า อย่างเข้มข้นห้ามมิให้ถูกบุกรุกและล่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่

เนื่องจาก ผลงานจากการลาดตระเวน ย้อนหลัง 10 ปี พบการเข้ามาล่าสัตว์ป่า ในช่วงเทศกาลหยุดยาว พบมากกว่าห้วงเวลาปกติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์

ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ จึงได้กำชับ ให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง วางแผน จัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเพื่อลาดตระเวน หรือดักซุ่ม คุ้มครองพื้นที่ และ หยุดยั้งการล่าสัตว์ป่า ให้รัดกุมมากที่สุด เพื่อความยั้งยืน และคงอยู่ของระบบนิเวศน์

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้วางแผนลาดตระเวน ดักซุ่ม และวิเคราะห์เหตุการณ์ ว่า “พรานป่าต้องคิดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจะต้องหยุดทำงาน และจะต้องไปอำนวยความความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว จึงจะอาศัยห้วงเวลานี้ เข้าไปล่าสัตว์” เจ้าหน้าที่จึงได้ซ้อนแผนดักซุ่มจนสามารถจับกุมได้ในที่สุด และที่สำคัญเป็นการจับกุมผู้ต้องหาได้ก่อนที่จะเกิดการล่า ก่อนที่จะเกิดความสูญเสีย…

คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งสถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อยเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

** พันธ์พงษ์ โพธิ์จินดา รายงาน