ชาวบ้านร้องปกครองให้ตรวจสอบงบปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ ที่ อบต.เป็นคนทำ

แชร์ข่าวนี้

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยนายมารุต ตั้งบูรพาจิตร์ กำนัน ต.กุยเหนือ นายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์เรียง พร้อมสมาชิก อบต.และชาวบ้านโพธิ์เรียงจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าไปที่บ้านเลขที่ 5/2 ม.3 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งเป็นบ้านของนายสุโข เขียวหวาน อายุ 71 ปี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า บ้านของนายสุโข ได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ ในโครงการ “บ้านสบายเพื่อยายตา” โดย  อบต.กุยเหนือ เป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่องานเสร็จแล้วได้ไม่ตรงปก

โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มุงหลังคากระเบื้อง ฝาบ้านทำจากกระเบื้องแผ่นเรียบ มีเพียงห้องน้ำที่ก่อจากอิฐบล็อก จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้มีร่องรอยการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ทั้งหมด ฝาบ้านบางส่วนที่เปลี่ยนใส่กระเบื้องแผ่นเรียบให้ใหม่ ไม้เครื่องบนส่วนใหญ่ใช้ไม้เดิมของบ้าน มีเพียงด้านหน้าบ้านที่เป็นไม้ใหม่และมีการกั้นห้องเพิ่มเติมให้ โดยพื้นยังเป็นพื้นดินเหมือนเดิม มีการติดหน้าต่างเพิ่มให้ 4 บาน เพิ่มประตูหลังบ้าน 1 บาน และประตูห้องหน้าบ้านอีก 1 บาน

โดยเรื่องดังกล่าว มีข้อมูลจากนายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้าน ว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จาก อบต.ได้นำเอกสารมาให้เซ็นรับรองบ้านหลังดังกล่าว โดยนายณรงค์เห็นยอดเงินที่จ่ายไปเป็นเงิน 8 หมื่นเศษ จึงไม่ได้เซ็นไปเนื่องจาก มีชาวบ้านหลายคนเข้ามาร้องเรียนอีกทั้งนายณรงค์ได้เคยเข้าไปดูที่บ้านแล้ว พบว่าอุปกรณ์หลายอย่างที่มาทำให้ ไม่น่าจะคุ้มค่ากับยอดเงินที่มีในเอกสารมาให้ตนเซ็น ในวันนี้จึงได้แจ้งไปยังอำเภอกุยบุรี เพื่อร่วมตรวจสอบ  เพื่อดูผลงานกับงบประมาณที่ใช้ไป 8 หมื่นบาท โดยเฉพาะฝาห้องของนายสุโขกับภรรยา และของลูกสาวก็ไม่ได้ทำให้ สายไฟในบ้านห้อยระโยงระยางจนน่ากลัวว่าจะไม่ปลอดภัย

ด้านนายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอกุยบุรี ได้ทำการเช็คข้อมูลไปยังการเคหะแห่งชาติ ทราบว่า การเคหะแห่งชาติได้จัดสรรเงินจากกำไรสุทธิประจำปี เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ ผ่านการประชาคมจากหน่วยงานท้องถิ่นสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านตามสภาพความเป็นจริง โดยบูรนาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลังจากนั้นมอบหมายผู้รับจ้างหรือจิตอาสาในพื้นที่ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านของผู้สูงอายุจนแล้วเสร็จ และการเคหะแห่งชาติจะจัดพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุฯ “บ้านสบายเพื่อยายตา” อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ไม่ได้กำหนดยอดวงเงินมาแต่อย่างใด

นางอัมพร ไชยอาลา อายุ 63 ปี ภรรยาของนายสุโข ผู้เป็นเจ้าของบ้านเล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่กับสามีที่พิการทางการได้ยิน พร้อมด้วยลูกสาวและหลาน 2 คน  ทำงานเหลาทางมะพร้าวขาย ส่วนลูกสาวทำงานโรงงาน หลานยังเรียนอยู่ ฐานะยากจน ที่ปลูกบ้านก็ญาติๆให้มาปลูกอาศัยอยู่  ตนรู้สึกดีใจที่ทางภาครัฐเข้ามาช่วยปรับปรุงบ้านให้กับตน  แต่ก็สงสัยว่าในระหว่างที่ทาง อบต.พาเจ้าหน้าที่มาช่วยปรับปรุงบ้านนั้น ได้รื้อเอากระเบื้องหลังคาของเก่าของตนออกไปเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ เมื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงกระเบื้องเก่าก็ทราบว่า ได้ขายให้กับคนข้างบ้านไปแล้วในราคา 1 พันบาท เพื่อมาเป็นค่าข้าวค่าน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยทำงาน นอกจากนี้ วัสดุบางอย่างที่ใช้ไม่หมด อย่างเช่นเสาปูน นำมา 2 ต้น ก็ใช้เพียงต้นเดียว ที่เหลือเอากลับไป ทรายใส่กระสอบไว้เหลือ 3-4 กระสอบก็เอากลับ

ทางด้านนายชัยวุฒิ ได้ประสานงานไปยัง อบต.กุยเหนือ เพื่อขอข้อมูลแต่ยังไม่สามารถติดต่อคนที่รับผิดชอบโครงการนี้ได้ เนื่องจากติดภารกิจในพื้นที่ จึงได้นัดกับชาวบ้านผู้ร้องและกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง เจ้าหน้าที่ อบต.มาประชุมหาความจริงเพื่อดำเนินการต่อไป

///////////////////////////////////////